น้ำมันขึ้น-ทองคำพุ่งผวาสงครามกลางเมืองยูเครน หุ้นมะกันบวกแรง

เอเอฟพี/เดอะสตรีท - ราคาน้ำมันบวก ส่วนทองคำขึ้นแรงวานนี้ (12) หลังกบฏนิยมรัสเซียจัดลงประชามติทางตะวันออกของยูเครน และอ้างว่ามีใช้สิทธิ์ตัดสินใจแยกตัวเป็นอิสระ เพิ่มความกังวลอาจเกิดสงครามกลางเมืองซึ่งอาจกระทบต่อการลำเลียงพลังงาน ขณะที่วอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดตลอดกาล จากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 60 เซ็นต์ ปิดที่ 100.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 52 เซ็นต์ ปิดที่ 108.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวันจันทร์ (12) มีขึ้นหลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝรัสเซีย อ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่ในโดเนตสก์ และลูกานสก์ ลงประชามติช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นชอบแยกตัวออกจากยูเครน การโหวตที่ถูกชาติตะวันตกและรัฐบาลยูเครนประณามว่าเป็นการเล่นตลกและผิดกฎหมาย

วิกฤตดังกล่าวก่อความกังวลว่าสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนอาจลุกลามบานปลายเข้าสู่สงครามกลางเมือง ขณะที่ยูเครนเป็นเส้นทางลำเลียงก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซียไปยังยุโรป

ปัจจัยข้างต้นได้ก่อความหวาดผวาแผ่ลามมาถึงตลาดทองคำเช่นกัน ส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าสีเหลืองวานนี้ (12) ปิดบวกพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,295.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (12) ขยับขึ้นแรง โดยดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีที่ดันแนสแดค ปิดบวกเกือบ 1.8 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 112.13 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,695.47 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.17 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,896.65 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 71.99 จุด (1.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,143.86 จุด

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (12) เป็นผลจากแรงช้อนซื้อกลุ่มเทคโนโลยี หลังก่อนหน้านี้มีแรงเทขายอย่างหนักจากความกังวลว่ามันมีมูลค่าสูงเกินจริง จนส่งผลให้แนสแดค ร่วงลงถึงร้อยละ 6.6 ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม ถึงวันศุกร์ (9) ที่แล้ว