เอเอฟพี - ทางการแดนจังโก้เริ่มส่งเครื่องแบบตำรวจและปืนยาวจู่โจมให้กองกำลังฝ่ายพลเรือน ทางภาคตะวันออกของเม็กซิโก ซึ่งเป็นการอนุญาตให้กองกำลังติดอาวุธซึ่งก่อตั้งขึ้นมาในปีที่แล้ว เพื่อต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติดชั่วร้าย สามารถดำเนินภารกิจปราบปรามได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สมาชิกซึ่งเป็นชาวไร่ชาวนาร่วมร้อยคนตั้งแถวในฟาร์มปศุสัตว์แห่งหนึ่ง เพื่อรับมอบเครื่องแบบที่ออกแบบมาสำหรับตำรวจชนบทในเมืองเตปัลกาเตเปก อันเป็นถิ่นกำเนิดของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนี้ ในรัฐมิโชอากัน พื้นที่เกษตรอันเขียวขจี
นอกจากนี้ ตำรวจน้องใหม่หน่วยนี้ยังจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจการในเมืองบวยนาวิสตาซึ่งอยู่ใกล้เคียง และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านลุกฮือขึ้นต่อต้านแก๊งค้ายาเสพติด “ไนต์ เท็มพลาร์” เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐบาลกลางไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้
“เมื่อเราได้รับเครื่องแบบ เราเป็นกองกำลังที่ถูกกฎหมาย” เอสตานีลาโอ เบลตรัน หัวหน้ากองกำลังฝ่ายพลเรือนที่มีเคราสีขาว และมีฉายาว่า “ปะป๋า เสมิร์ฟ” กล่าว หลังเปลี่ยนมาสวมเครื่องแบบ พร้อมทั้งเสริมว่า “ตอนนี้เราเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลแล้ว”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชนบทราว 100 คนกลุ่มนี้ก็เริ่มเปล่งเสียงร้องเพลงชาติเม็กซิโก ในพิธีกล่าวคำปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ณ จัตุรัสใจกลางเมือง
อัลเฟรโด กัสตีโย ผู้แทนพิเศษจากกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลกลาง ประจำรัฐมิโชอากันกล่าวว่า “นับแต่บัดนี้ไป คุณมีหน้าที่ปกป้องพี่น้อง ครอบครัว เพื่อนบ้าน และใครก็ตามที่อาจตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ายาเสพติด”
รัฐบาลกลางเม็กซิโก ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องรับมือกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือน ได้กล่าวเตือนว่า ใครก็ตามที่ถูกตรวจพบว่าพกพาอาวุธ หลังเส้นตายสมัครเข้าร่วมกองกำลังตำรวจวานนี้ (10) จะต้องถูกจับกุม
เมื่อเดือนที่แล้ว ภายหลังที่ทางการแดนจังโก้สามารถรวบตัวหัวหน้ากลุ่มแก๊ง ไนต์ เท็มพลาร์ได้ 4 คน กองกำลังฝ่ายพลเรือนกลุ่มนี้ก็ยอมลงนามข้อตกลง เพื่อนำอาวุธปืนของเขาไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเก็บรักษาไว้ที่บ้าน ตลอดจนเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองตำรวจชนบท
***ช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจ***
เหล่าหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือนกล่าวว่า พวกเขายังคงต้องหารือกันถึงรายละเอียดในเรื่องต่างๆ เช่น เงินเดือน และผู้ใต้บังคับบัญชา แม้ว่าพวกเขาจะทำงานอยู่เคียงข้างตำรวจของรัฐบาลกลางก็ตาม
ทางการเม็กซิโกระบุว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับความแตกแยกในหมู่หัวหน้า แต่กำลังกว่า 3,300 คนจากทั้งสิ้นประมาณ 20,000 คน ได้ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกกองกำลังตำรวจ
กัสตีโยชี้ว่า แม้ว่าจะมีการกำหนดเส้นตาย แต่ทางการก็จะยังเปิดโอกาสให้เวลากองกำลังฝ่ายพลเรือนเพิ่มอีก 2 หรือ 3 วัน เพื่อเข้ารักษการตามเมืองอื่นๆ เนื่องจากกำลังมีความต้องการกำลังคนมากกว่าที่คาดหมาย
ทั้งนี้ การลุกฮือขึ้นของกองกำลังฝ่ายพลเรือน ซึ่งแผ่ขยายอิทธิพลเข้าไปในกว่า 30 เมือง และสามารถปราบปรามสมาชิกขบวนการค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ได้ทำให้เกิดกระแสหวั่นวิตกกันว่าพวกเขาอาจกลายเป็นกำลังรบกึ่งทหารซึ่งเป็นภัยร้ายต่อเมือง เตียร์รา กาเลียงเต (ฮ็อตแลนด์) ของรัฐมิโชอากัน
เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐมิโชอากันได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญของประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนา นีเอโตแห่งเม็กซิโก ซึ่งเมื่อปีที่แล้วส่งเจ้าหน้าที่หลายพันนายเข้าไปรักษาความสงบสุข และแต่งตั้ง กัสตีโย เป็นผู้แทนพิเศษด้านความมั่นคงในปีนี้