กบฏซีเรียยอมทิ้ง “ที่มั่นสุดท้าย” ในเมืองฮอมส์ จุดกำเนิดการลุกฮือต่อต้าน “ปธน.อัสซาด”

รอยเตอร์ - กบฏซีเรียหลายร้อยคนวานนี้ (7 พ.ค.) ละทิ้งฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายใจกลางเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นจุดหลักของการลุกฮือขึ้นต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ราวกับเป็นการมอบชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ให้แก่ผู้นำ ก่อนที่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ขบวนรถ 2 ขบวนวิ่งลัดเลาะไปตามซากปรักหักพังของเมืองซึ่งถูกปิดล้อมมานาน เพื่อนำเหล่านักรบไปกบดานอย่างปลอดภัยในพื้นที่นอกเมืองซึ่งกบฏยึดครอง โดยเป็นการทำตามข้อตกลงระหว่างกบฏ กับกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอัสซาด

ก่อนหน้านี้ นักรบมุสลิมซุนนีได้เข้ายึดครองเขตเมืองเก่าของฮอมส์และพื้นที่โดยรอบ แม้ว่าจะขาดแคลนเสบียง ถูกปิดล้อม และโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดีอัสซาดที่มีกำลังพลมากกว่านานกว่า 1 ปี

อะห์หมัด จาร์บา ประธาน “แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย” (เอ็สเอ็นซี) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันอย่างหลวมๆ ของกบฏที่มุ่งโค่นล้มอำนาจอัสซาดได้กล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์พีบีเอส ในกรุงวอชิงตันว่า “ชาวเมืองฮอมส์คือวีรบุรุษตัวจริง พวกเขาต้องทุ่มเทเพื่อแลกกับเสรีภาพ ... การปิดล้อมเมืองทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย เราต้องการให้พลเรือนและนักรบอพยพออกจากเมืองฮอมส์อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกเขามีชีวิตรอด”

ในเวลาที่เหล่านักรบถูกอพยพออกจากเมืองฮอมส์ ก็มีการปล่อยตัวเชลยหลายสิบรายที่ถูกกบฏกักตัวไว้ในจังหวัดอเลปโป ทางภาคเหนือของซีเรีย และเมืองท่าลาตาเกีย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำตามข้อตกลงฉบับเดียวกันนี้

อย่างไรก็ตาม ขบวนรถบรรเทาทุกข์ที่เตรียมไว้ ซึ่งพยายามเข้าไปยังเมือง 2 แห่งนอกจังหวัดอเลปโป ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่ถูกกบฏปิดล้อมก็ต้องวกกลับไป เพราะเผชิญกลุ่มติดอาวุธ “แนวหน้านุสรา” เครือข่ายกลุ่มอัลกออิดะห์ จนก่อให้เกิดคำถามว่าปฏิบัติการที่เมืองฮอมส์จะสำเร็จลุล่วงหรือไม่

ตาลัล บาราซี ผู้ว่าราชการการจังหวัดฮอมส์ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ระงับการอพยพ โดยองค์การเฝ้าระวัง “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรต์ส รายงานว่า สามารถส่งตัวนักรบออกจากพื้นที่เมืองเก่าไป 900 คน

คลิปวิดีโอของขบวนรถขบวนแรกเผยภาพชายกลุ่มหนึ่งปีนขึ้นรถบัสสีเขียว โดยมีชายสวมเครื่องแบบสีกากีทับด้วยเสื้อเกราะสีดำราว 10 นายซึ่งหน้าจะเป็น “ตำรวจ” คอยคุ้มกัน ขณะที่ด้านหน้ารถมีรถยนต์สีขาวอีกคันที่มีตราองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จอดอยู่เพื่อคอยควบคุมดูแลปฏิบัติการ

เหล่านักเคลื่อนไหวระบุว่า ประชาชนทั้ง 1,900 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบฝ่ายกบฏถูกอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่องค์การเสี้ยววงเดือนแดงอาหรับระบุบนทวิตเตอร์ของหน่วยงานว่า ได้ส่งรถพยาบาลไปรับคนเจ็บจากพื้นที่ใจกลางเมืองแล้ว

วิดีโอคลิปถัดมาเผยให้เห็นนักรบกลุ่มนี้เดินทางมาถึงพื้นที่ยึดครองของกบฏทางเหนือของเมือง ขณะที่นักรณรงค์ระบุว่าสมาชิกกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้จะต้องผ่านขั้นตอนที่ต่างจากการอพยพพลเรือนจากเมืองฮอมส์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะต้องถูกกองกำลังรักผษาความมั่นคงกักตัวเพื่อตรวจสอบ และอนุญาตให้สามารถพกพาเฉพาะอาวุธเบาเท่านั้น

ในเวลาที่ฟ้ากำลังมืดลงก็ยังไม่ชัดเจนว่าปฏิบัติการนี้จะสำเร็จลุล่วงตั้งแต่วานนี้ (7) หรือจะยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ (8)

จาร์บา ประธานกลุ่มเอ็สเอ็นซีกล่าวกับสถานีโทรทัศน์พีบีเอสผ่านทางล่ามแปลภาษาว่า “การต่อสู้ และสงครามครั้งนี้ บางครั้งเราเป็นฝ่ายรุกคืบ และบางครั้งเป็นฝ่ายต้องล่าถอย ... บางครั้งเราอาจเสียพื้นที่ แต่ประชาชนของเรา ชาวซีเรีย มีความมุ่งมั่นที่จะได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด และได้พื้นที่ซึ่งเคยเสียไปกลับคืนมา”

ทั้งนี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน จาร์บาจะหารือร่วมกับ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีว่าต่างประเทศของสหรัฐฯ ในวันนี้ (8) และมีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน