“ปูติน” ยอมอ่อน ร้องฝ่ายกบฏยูเครนเลื่อนประชามติแยกดินแดน-หนุนเลือกตั้งปธน.

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียในวันพุธ (7 พ.ค.) เรียกร้องไปยังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมเครมลินทางภาคตะวันออกของยูเครน เลื่อนแผนการลงประชามติอันเป็นที่ถกเถียงช่วงสุดสัปดาห์นี้ ว่าจะขอเป็นอิสระในการปกครองตนเองมากกว่าเดิมหรือถึงขั้นประกาศเอกราชฝ่ายเดียวจากเคียฟ เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับเจรจาแก้วิกฤต

“เราร้องขอเหล่าผู้แทนจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ระงับแผนจัดลงประชามติในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ไว้ก่อน เพื่อสร้างสภาวะที่จำเป็นสำหรับการเจรจา” ปูตินตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังจากพบปะกับนายดิดิเยร์ เบอร์คัลเตอร์ ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์และประธานคนปัจจุบันขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ที่เครมลิน

นักรบฝักใฝ่รัสเซียซึ่งบุกยึดอาคารราชหารหลายแห่งในดินแดนต่างๆทางภาคตะวันออกไม่ว่าจะเป็นที่โดเนตส์คและลูกานส์ค ต่างแถลงแผนจัดลงประชามติแยกตัวออกจากยูเครน ตามหลังรัฐบาลนิยมมอสโกถูกชุมนุมขับไล่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก่อนถูกโค่นอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม แผนจัดลงประชามติดังกล่าวถูกยูเครน รวมทั้งพันธมิตรอย่างสหรัฐฯและสหภาพยุโรปประณามว่าผิดกฎหมาย ขณะที่แผนจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 25 พฤษภาคมของยูเครนเอง ก็ถูกรัสเซียตำหนิว่าเป็นสิ่งไร้สาระ เนื่องจากเวลานี้ยังคงมีการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างพวกแบ่งแยกดินแดนกับกองกำลังเคียฟในหลายเมือง

กระนั้นก็ดี ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดดูเหมือนปูตินแสดงท่าทีอ่อนลงไปก่อนถึงศึกเลือกตั้ง ด้วยเรียกร้องให้มีมาตรการชั่วคราวเพื่อให้มันเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง “ผมขอย้ำว่าแผนเลือกตั้งประธานาธิบดีของเคียฟ แม้หากมันเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง มันก็ยังจะไม่ได้บทสรุปอะไร หากว่าพลเมืองชาวยูเครนไม่เข้าใจว่าหลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว สิทธิต่างๆของพวกเขาจะได้รับการปกป้องอย่างไร” ปูตินกล่าว

อนึ่ง ชนเชื้อสายรัสเซียซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน แสดงความกังวลว่าพวกเขาอาจต้องสูญเสียสิทธิทางภาษารวมถึงสิทธิอื่นๆภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ หลังดูเหมือนว่าฝ่ายฝักใฝ่ตะวันตกจะชนะศึกเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม

ท่าทีที่เปลี่ยนไปของปูติน มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ กล่าวหามอสโกว่ากำลังวางแผนยึดดินแดนยูเครนเพิ่มผ่านวิธีทำประชามติกำมะลอ หลังจากผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่เหล่าผู้นำชาติตะวันตกคนอื่นๆ เป็นต้นว่าประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์แห่งฝรั่งเศส ได้ออกมากล่าวเตือนว่าการปะทะกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนมอสโกกับเคียฟ ทางภาคตะวันออกของยูเครน อาจจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ พร้อมทั้งชี้ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยฉุดประเทศนี้ออกจากริมขอบเหว

ทั้งนี้ ยูเครน และเหล่าพันธมิตรชาติตะวันตกเชื่อว่า มอสโกกำลังพยายามผลักดันให้มีการลงประชามติเพื่อฉวยโอกาสช่วงสถานการณ์กำลังชุลมุนวุ่นวาย ก่อนที่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (6) เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การจัดเลือกตั้งในช่วงที่สถานการณ์กำลังรุนแรงเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ ขณะที่โฆษกของประธานาธิบดีปูตินใช้วาจารุนแรงกว่านั้น โดยเขาระบุว่าเป็นความคิด “บ้าๆ”

นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังเมินเฉยต่อความพยายามเปิดโต๊ะเจรจาสันติภาพยูเครนระลอกใหม่ ที่ยูโรปเป็นผู้ผลักดันโดยมีเยอรมนีเป็นหัวเรือใหญ่ หลังข้อตกลงที่รัสเซีย-ยูเครน-สหรัฐฯ-อียู บรรลุร่วมกันในนครเจนีวา วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมากลายเป็นหมัน