เอเจนซีส์ - นักประดาน้ำอาสาสมัครสังเวยชีวิต 1 ราย ระหว่างค้นหาผู้สูญหายในเหตุการณ์เรือเฟอร์รีล่มตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนเผยว่า เรือ “เซวอล” ลำนี้บรรทุกสินค้าเกินพิกัดหลายเท่าตัว และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกมากล่าวขออภัยเป็นคำรบสองต่อความล้มเหลวของรัฐบาลในการปราบปรามคอร์รัปชั่น ที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของโศกนาฏกรรมนี้
โค เมียงซุก โฆษกหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันอังคาร (6 พ.ค.) ว่า ลี กวางวุก ประดาน้ำอาสาสมัครวัย 53 ปี ที่เพิ่งเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายในโศกนาฏกรรม “เซวอล” เป็นครั้งแรกของเขา ไม่สามารถหายใจเองได้หลังจากดำน้ำลงไปถึงระดับ 25 เมตร และหมดสติ ซึ่งเมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์ยืนยันว่า ลีเสียชีวิตแล้ว
ลีขาดการติดต่อกับผู้ควบคุมเหนือผิวน้ำหลังจากลงน้ำได้เพียง 5 นาที โดยเจ้าหน้าที่ยามฝั่งรายงานว่า ท่ออากาศของเขาพันกับสายอุปกรณ์อื่นๆ
ลีเป็นเหยื่อรายแรกในบรรดานักประดาน้ำนับร้อย ที่เข้าร่วมภารกิจอันตรายเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหายที่ติดอยู่ในเรือเซวอลที่จมอยู่ ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวและทัศนวิสัยใต้น้ำที่มืดมิด รายงานระบุว่า นับจากเริ่มต้นภารกิจ มีนักประดาน้ำ 10 คนต้องรับการรักษาจากอาการอ่อนเพลียและเมาความกดอากาศ
จนถึงวันอังคาร (6) ซึ่งเป็นวันที่ 20 ที่เรือเซวอลที่มีระวางขับน้ำ 6,825 ตัน อับปางลงพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 476 คน ที่นอกชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันล่าสุดอยู่ที่ 263 ราย และยังคงสูญหายอีก 39 ราย
วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า นับแต่เริ่มให้บริการบรรทุกผู้โดยสารและสินคาระหว่างท่าเรือเมืองอินชอน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ไปยังเกาะเจจู ที่อยู่ทางใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เรือเซวอลบรรทุกสินค้าเกินพิกัดถึง 139 เที่ยว จากจำนวนทั้งสิ้น 241 เที่ยว
ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เรือเซวอลบรรทุกสินค้าถึง 3,608 ตัน โดยเป็นรถยนต์ 108 คัน ขณะที่ขีดจำกัดที่กฎหมายกำหนดคือ 987 ตันเท่านั้น
นอกจากนี้ เรือเซวอลยังเก็บกักน้ำอับเฉาซึ่งจะช่วยในการทรงตัวของเรือ เอาไว้เพียง 580 ตัน หรือ 37% ของปริมาณที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรองรับสินค้าได้มากขึ้น แต่ก็ส่งผลให้การทรงตัวของเรืออยู่ในภาวะไม่สมดุลอย่างร้ายแรง
ทางด้านประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ได้ออกคำแถลงขอโทษเป็นคำรบสองเมื่อวันอังคาร สำหรับความล้มเหลวของรัฐบาลในการป้องกันโศกนาฏกรรม และย้ำว่า จะกวาดล้างการทุจริตและการกระทำผิดที่เป็นต้นเหตุของหายนะครั้งนี้
“ความโลภที่ต้องการได้มาซึ่งวัตถุ มีอำนาจเหนือข้อกำหนดด้านความปลอดภัย และพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบนี้ส่งผลให้ชีวิตอันมีค่ามากมายต้องล้มหายตายจากไป” คำแถลงของเธอระบุ
ก่อนหน้านี้ พัคได้แถลงขอโทษสำหรับความล้มเหลวของรัฐบาลในการต่อสู้กับ “ปีศาจร้าย” ในระบบและกฎระเบียบ ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้ และประกาศลงโทษสถานหนักต่อผู้กระทำผิด ทว่ายังไม่เป็นที่พอใจของญาติๆ ผู้เสียชีวิตตลอดจนประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ คะแนนนิยมของพัคตกลงมาเหลือ 53% ในการสำรวจล่าสุดซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (5)
โศกนาฏกรรมเรือเฟอร์รี่ล่มหนนี้ เป็นหนึ่งในความหายนะร้ายแรงที่สุดของเกาหลีใต้ในช่วงหลังสงคราม และสิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ การเสียชีวิตของเด็กวัยรุ่นจำนวนมาก เนื่องจากในบรรดาผู้โดยสารทั้งหมดบนเรือ เป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองอันซานถึง 325 คน
ขณะเดียวกัน ลูกเรือที่รอดชีวิตทั้ง 15 คน ซึ่งรวมถึงกัปตัน ถูกควบคุมตัวเพื่อรอตั้งข้อหาหลายกระทง เป็นต้นว่า ประมาท และทอดทิ้งผู้โดยสาร
สัปดาห์ที่แล้ว อัยการยังจับกุมเจ้าหน้าที่ 3 คนจาก ชองแกจิน มารีน บริษัทผู้ดำเนินการเรือเซวอล ในข้อหาขนสินค้าเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด
ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่สวนสวนระบุว่า ลูกเรือไม่ได้แจ้งเตือนผู้โดยสารถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้น หลังจากส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน 40 นาที มิหนำซ้ำพวกเขายังเป็นกลุ่มแรกที่หนีลงเรือของหน่วยกู้ภัย ปล่อยให้ผู้โดยสารติดอยู่ภายในเรือเฟอร์รี่ที่จมลงเรื่อยๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากปรากฏหลักฐานเพิ่มเติมที่ฟ้องความหละหลวมของมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะมีการทุจริตรับสินบนในหมู่ผู้คุมกฎ
หนังสือพิมพ์ฮังเคียวเรห์ ชินมุน รายงานว่า การบังคับใช้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยยังคงหละหลวมแม้ก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงในปี 1993 ที่ผู้โดยสาร 292 คนเสียชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รี่บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดและจมลงนอกชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ