เอเอฟพี - ขณะพยายามส่งเสริมกบฏซีเรียที่ถูกโจมตี วอชิงตันวานนี้ (5 พ.ค.) ยังประกาศรับรองให้ที่ทำการของกบฏซีเรีย ให้มีฐานะเทียบเท่าสถานเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ในเวลาที่ผู้นำกลุ่มกบฏซีเรียที่มีอิทธิพลทางการเมืองเดินทางมาขอแรงสนับสนุนด้านอาวุธ เพื่อช่วยยุติสงครามกลางเมืองซึ่งดำเนินมานานถึง 3 ปี
คณะผู้แทนภายใต้การนำของ อะห์เหม็ด จาร์บา ผู้นำกลุ่ม “แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย” (เอสเอ็นซี) ได้ทยอยเดินทางมาถึงสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ (4) เพื่อเข้าร่วมการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ขณะเดินทางเยือนวอชิงตันอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่มีการก่อตั้งเอสเอ็นซีขึ้นเมื่อปี 2012
มารี ฮาร์ฟ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า สหรัฐฯ กำลังจะประกาศมาตรการใหม่ “เพื่อมอบอำนาจให้กลุ่มกบฏแนวทางสายกลาง และเพื่อผลักดันความพยายามให้ความช่วยเหลือ” ผู้ที่อยู่ในซีเรีย
ในการเคลื่อนไหวซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงสัญลักษณ์ ตอนนี้สหรัฐฯ ได้ยอมรับที่ทำการของผู้แทนแนวร่วมแห่งชาติซีเรียในกรุงวอชิงตัน และนครนิวยอร์กในฐานะ “คณะผู้แทนต่างประเทศ ตามกฎหมายคณะผู้แทนต่างประเทศ”
นอกจากนี้ วอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ ที่ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมูลค่าราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.5 หมื่นล้านบาท) ให้แก่ชาวซีเรีย กำลังจัดหาความช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาวุธ และระดมส่งความช่วยเหลือทางทหารไปให้แก่กบฏซีเรียที่ยึดมั่นในแนวทางสายกลาง ซึ่งตอนนี้กำลังต่อกรกับกองกำลังของระบอบปกครองซีเรีย และกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่มีมากมายจนไหลทะลักสมรภูมิรบ
จาร์บารู้สึกยินดีกับความเคลื่อนไหวนี้ โดยมองว่าเป็น “การใช้วิธีทางการทูตเพื่อแสดงท่าทีต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล - อัสซาด แห่งซีเรีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะทำงานของจาร์บา ระบุว่า พลจัตวา อับเดลลีลาห์ อัล-บาชีร์ เสนาธิการคนใหม่ของกองทัพเสรีซีเรีย (เอฟเอสเอ) จะร่วมเดินทางไปกับจาร์บา ระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐฯ 8 วัน
คณะทำงานของจาร์บายังเปิดเผยด้วยว่า “เขาจะร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน เพื่อพูดคุยกันในประเด็นการจัดหาอาวุธเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กับเอฟเอสเอ เพื่อสร้างความได้เปรียบในสมรภูมิรบ”
เหล่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดว่า วอชิงตันจะจัดส่งความช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาวุธ หรืออาวุธประเภทใดให้แก่กบฏซีเรีย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่า กบฏซีเรียกับระบอบปกครองอัสซาด มีแสนยานุภาพทางทหารคนละระดับกัน