เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในบราซิลที่มีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (3) บ่งชี้ ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีแดนแซมบ้าที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ อาจทวีความเข้มข้นสูสีกว่าที่คิดหลังคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงลดฮวบ จากความไม่พอใจของประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง
ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัย “เซนซูส” ระบุว่า ประธานาธิบดี รูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงวัย 66 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 36 ในประวัติศาสตร์บราซิลเมื่อเดือนมกราคมปี 2011 และถือเป็นสตรีคนแรกที่ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำแดนแซมบ้า อาจประสบความยากลำบากในการหวนคืนสู่อำนาจเป็นสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งเดือนตุลาคมนี้หลังผลสำรวจชี้ว่า มีผู้มีสิทธิออกเสียงเพียงร้อยละ 35 เท่านั้นที่จะลงคะแนนให้กับเธอ
ขณะที่ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 24 ของผู้มีสิทธิออกเสียงชาวบราซิล จะลงคะแนนให้กับนายอาเอซิโอ เนเวส ดา กุนญา วุฒิสมาชิกวัย 54 ปี ซึ่งเป็นผู้นำพรรคโซเชียลเดโมแครต ขณะที่อีกร้อยละ 11 จะเลือกเอดูอาร์โด เอ็นริเก กัมโปส ผู้ว่าการรัฐเปร์นัมบูโก วัย 48 ปี
ผลสำรวจที่ออกมาล่าสุดบ่งชี้ว่า ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนตุลาคมนี้ ส่อเค้าจะทวีความเข้มข้นมากกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ หลังจากที่คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เธอเคยมีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญอย่าง ส.ว.เนเวส เกินกว่า 15 จุด
รายงานข่าวระบุว่า ตลาดหุ้นบราซิลในวันศุกร์ (2) ปิดการซื้อขายโดยที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นถึง 2.6 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่บรรดานักลงทุนคาดว่า ผลสำรวจของเซนซูสที่จะมีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (3) จะแสดงให้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างรู้สึกไม่สบายใจต่อ “นโยบายเอียงซ้าย” ของนางรูสเซฟฟ์ ที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบเศรษฐกิจเสรี และต้องการเห็นผู้นำคนต่อไปของแดนแซมบ้าเป็นผู้ที่ยึดนโยบายสายกลางมากขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้บรรดานักลงทุนภาคเอกชนจะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ แต่บรรดานักวิเคราะห์ทางการเมืองยังคงคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดี รูสเซฟฟ์ น่าจะยังคงคว้าชัยชนะได้อีกสมัย จากฐานเสียงสำคัญ คือ เหล่าประชาชนระดับรากหญ้าที่ยากจนในบราซิล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากนโยบายด้านสวัสดิการสังคมต่างๆ ของเธอ