“มาเลเซีย” ได้ฤกษ์เปิด “สนามบิน KLIA2” ฐานบินโลว์คอสต์แห่งใหม่

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 (KLIA2) สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำเตรียมเปิดให้บริการในวันศุกร์นี้ (2) ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางการบินแห่งใหม่ของมาเลเซียที่มุ่งให้บริการแก่ผู้โดยสารที่นิยมเดินทางแบบราคาประหยัดโดยเฉพาะ

สนามบินนานาชาติ KLIA2 ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างสูงถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาติหลัก KLIA โดยแต่เดิมรัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ทว่าเผชิญอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยและการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน แม้จะทุ่มงบเพิ่มเป็น 2 เท่าแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี โครงการก่อสร้าง KLIA2 ก็เสร็จสมบูรณ์ลงจนได้ และจะเริ่มเปิดรับผู้โดยสารชุดแรกในวันศุกร์นี้ (2) โดยมีเครื่องบินลงจอดทั้งหมด 56 เที่ยวบิน และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่สายการบินต้นทุนต่ำทุกบริษัทย้ายฐานจากสนามบิน LCCT มาให้บริการยังสนามบินแห่งใหม่นี้ทั้งหมด

นักวิเคราะห์และผู้เดินทางส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การเปิดสนามบินต้นทุนต่ำแห่งใหม่ในเมืองหลวงมาเลเซียล่าช้ามานานเกินไปแล้ว

สนามบิน LCCT ซึ่งให้บริการอยู่ในปัจจุบันเป็นอาคารเก่าที่ดูคล้ายกับสถานีรถประจำทางมากกว่าสนามบิน โดยปีที่แล้วมีนักเดินทางมาใช้บริการ LCCT มากถึง 22 ล้านคน ในขณะที่ตัวสนามบินมีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้เพียง 15 ล้านคนต่อปี

ทางการมาเลเซียชี้ว่า KLIA2 ซึ่งจะเป็นบ้านใหม่ของสายการบินโลว์คอสต์ มีพื้นที่กว้างขวางพอๆ กับสนามฟุตบอล 24 สนามรวมกัน และใหญ่กว่าสนามบิน LCCT ประมาณ 4 เท่า

ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีความทันสมัย โอ่โถง และมีช่องรับแสงธรรมชาติเพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้า ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับระบบรถไฟความเร็วสูง KLIA Express เพื่อเดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 50 กิโลเมตรได้อย่างสะดวก

สายการบินต้นทุนต่ำซึ่งจะเริ่มให้บริการที่สนามบิน KLIA2 ตั้งแต่วันศุกร์นี้ (2) ได้แก่ มาลินโดแอร์, เซบูแปซิฟิกแอร์, ไทเกอร์แอร์เวย์ส, ไลออนแอร์ และแมนดาลาแอร์ไลน์ส ส่วนสายการบินโลว์คอสต์ยอดนิยมอย่าง “แอร์เอเชีย” จะย้ายทุกเที่ยวบินมายัง KLIA2 ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมเป็นต้นไป

KLIA2 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 45 ล้านคน ในขณะที่สนามบิน KLIA ซึ่งถือเป็นประตูหลักของมาเลเซียยังรับผู้โดยสารได้เพียงราวๆ 40 ล้านคนต่อปี ทว่ารัฐบาลเสือเหลืองก็มีแผนจะขยายสนามบินหลักให้สามารถรองรับคนเดินทางได้มากขึ้นเช่นกัน

ทางการมาเลเซียคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้สนามบิน KLIA2 ราว 24 ล้านคน ในช่วง 12 เดือนแรกที่เปิดให้บริการ

“ท่าอากาศยาน KLIA2 จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกรุงกัวลาลัมเปอร์ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการบิน ทั้งแบบต้นทุนต่ำและแบบบริการครบวงจร” บาชีร์ อะหมัด ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการของบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิงส์ เบอร์ฮัด (MAHB) ซึ่งเป็นผู้บริหารและก่อสร้างสนามบิน KLIA2 กล่าว

กัวลาลัมเปอร์ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการบินต้นทุนต่ำของภูมิภาค โดยได้อานิสงส์จากการเติบโตของโลว์คอสต์ยักษ์ใหญ่ “แอร์เอเชีย” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำท่าว่าจะไปไม่รอด แต่ด้วยกลยุทธ์การบริหารของนักธุรกิจฝีปากกล้าชาวมาเลเซีย โทนี เฟอร์นันเดซ ซึ่งเข้าซื้อกิจการแอร์เอเชียเมื่อปี 2001 สายการบินนี้ก็ถูกพลิกโฉมจนกลายเป็นหนึ่งในสายการบินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และมีอัตราการขยายตัวของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้สายการบินคู่แข่งอื่นๆในภูมิภาคนี้พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย

“แอร์เอเชีย เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตลาดการบินต้นทุนต่ำเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยขนาดของบริษัท และความสามารถในการจูงใจผู้โดยสารด้วยตั๋วราคาประหยัด” ชูโกร์ ยูซุฟ นักวิเคราะห์ด้านการบินจากบริษัท เอ็นเดา อนาลิติกส์ ซึ่งมีฐานในมาเลเซีย กล่าว พร้อมชี้ว่าสนามบิน KLIA2 จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อการเติบโตของตลาดการบินในเอเชีย

อย่างไรก็ดี การสูญหายของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ซึ่งออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติ KLIA เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ทำให้ทั่วโลกเริ่มไม่เชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการบินของแดนเสือเหลือง และเฝ้าจับตาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสนามบินแห่งใหม่

คณะกรรมการรัฐสภามาเลเซียอยู่ระหว่างสอบสวนสาเหตุความล่าช้าในการก่อสร้าง KLIA2 และงบประมาณที่บานปลาย ขณะที่พนักงานแอร์เอเชียหลายคนออกมาแสดงความเป็นห่วงทั้งในเรื่องของระบบการใช้งาน ความปลอดภัย และความมั่นคงของ KLIA2 โดยเฉพาะเรื่องความกดอากาศบริเวณทางวิ่งและแท็กซีเวย์

MAHB ซึ่งเป็นผู้บริหารและก่อสร้างสนามบิน ยอมรับว่า KLIA2 ตั้งอยู่บนพื้นดินที่ยังไม่เสถียร และอาจใช้เวลาหลายปีในการบำรุงรักษา

รัฐบาลมาเลเซียมักถูกโจมตีว่าใช้ระบบทุนนิยมแบบเล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งเป็นสาเหตุให้โครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ประสบปัญหา หรือมีค่าใช้จ่ายบานปลายโดยไม่ทราบสาเหตุ

เฟอร์นันเดซ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทแอร์เอเชีย เคยตำหนิรัฐบาลว่า “เอื้อประโยชน์” ให้มาเลเซียแอร์ไลน์สซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติที่กำลังขาดทุนมากกว่าแอร์เอเชีย ทั้งยังขู่จะไม่ยอมย้ายเที่ยวบินมายัง KLIA2 ด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แอร์เอเชีย ตกลงที่จะย้ายฐานจาก LCCT ไปยัง KLIA2 หลังรัฐบาลมาเลเซียรับปากจะให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เข้าไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบินแห่งใหม่

ทางการมาเลเซียแถลงว่า สนามบิน KLIA2 ผ่านการรับรองจาก ICAO เป็นที่เรียบร้อย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว