เอเจนซีส์ – ชาวบ้านในเมืองชายทะเลบนเกาะนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดาเฝ้ามองดูซากวาฬสีน้ำเงินที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยความหวาดหวั่น เพราะมีสภาพบวมอืดจนอาจจะ “ระเบิด” ได้ทุกเมื่อ
ซากวาฬสีน้ำเงินความยาว 25 เมตร ถูกซัดขึ้นมาเกยหาดร็อกกีในเมืองเทราต์ริเวอร์ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่า มันคงจะตายเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
เอมิลี บัตเลอร์ เจ้าหน้าที่ประจำเมืองเปิดเผยว่า ซากวาฬตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ 2 เท่า เพราะอัดแน่นไปด้วยก๊าซมีเทนที่เกิดจากการเน่าเปื่อย และอีกไม่นานจะส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่ว ไม่ว่ามันจะ “ระเบิด” หรือไม่ก็ตาม
หน่วยงานรัฐบาลกลางและท้องถิ่นยังตกลงกันไม่ได้ว่า ฝ่ายใดควรจะรับผิดชอบเอาซากวาฬไปทำลาย
บัตเลอร์ ยอมรับว่า เมืองเล็กๆ ซึ่งมีพลเมืองราว 600 คนแห่งนี้ไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะจัดการกับซากวาฬได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะผลักภาระให้พวกเขารับผิดชอบกันเองก็ตาม
เธอให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวีว่า หากชาวบ้านตัดสินใจช่วยกันลากซากวาฬกลับลงทะเล ก็อาจเป็นอันตรายต่อเรือที่สัญจรผ่านไปมา
อย่างไรก็ดี ซากวาฬตัวนี้เริ่มดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังเมืองเทราต์ริเวอร์ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกรอสมอร์นบนฝั่งตะวันตกของเกาะนิวฟันด์แลนด์
“การจะป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดูมันเป็นเรื่องยากพอควร เพราะไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นวาฬสีน้ำเงินชัดๆ อย่างนี้” บัตเลอร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ซีบีซี
เมื่อปีที่แล้ว ซากวาฬสเปิร์ม หรือ “วาฬหัวทุย” ตัวหนึ่งก็ลอยมาติดชายหาดบนหมู่เกาะฟาโร (Faroe Islands) และเกิดระเบิดในขณะที่นักชีววิทยากำลังชำแหละร่างของมัน
