รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ผู้โดยสารหลายล้านคนกำลังเตรียมใจเผชิญกับความสับสนอลหม่านขณะเดินทางในช่วงเย็นของวันนี้ (28 เม.ย.) ในเวลาที่ลูกจ้างเครือข่ายการรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนวางแผนผละงานประท้วง 2 วัน เพื่อต่อต้านแผนปลดคนงาน และแผนปิดสำนักงานจำหน่ายตั๋วรถไฟ
โฆษกของ TfL ระบุว่า การเจรจาอันยืดเยื้อยาวนานระหว่างองค์การขนส่งมวลชนลอนดอน (TfL) กับสหภาพแรงงานการรถไฟ การเดินเรือ และการขนส่ง (RMT) จะมีขึ้นวันนี้ (28) เพื่อมุ่งหมายไม่ให้ลูกจ้างนัดหยุดงานประท้วงติดต่อกัน 48 ชั่วโมง ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 20.00 น.ตามเวลาโลก (ตรงกับ 03.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (29) ในเมืองไทย)
การประท้วงในลักษณะคล้ายคลึงกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ทำให้เครือข่ายการคมนาคมซึ่งมีผู้ใช้บริการถึงราว 3 ล้านคนแทบทุกวันถึงกับเป็นอัมพาต ขณะที่แผนนัดผละงานระลอกสองถูกขัดขวาง เพื่อเปิดทางให้การเจรจาเดินหน้าต่อไป ทว่าในที่สุดการพูดคุยกันก็ล้มเหลวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
บรรดาผู้สันทัดกรณีด้านสหภาพแรงงานระบุว่า การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นหลัง บ็อบ โครว์ ประธานสหภาพแรงงาน RMT เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มีนาคม หลังจากสามารถชนะสัมปทานจากบรรดานายจ้าง ภายหลังนั่งโต๊ะเจรจากันอย่างลำบากยากเข็ญ และนัดหยุดงานประท้วงจนภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ และในที่สุดกลายเป็นแม่แบบของบรรดาผู้ที่หวังก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้ประธานต่อจากเขา
นอกจากนี้ยังจะมีการนัดหยุดงานอีก 3 วัน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
ขณะอ้างเหตุผลว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารน้อยกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้บริการเครือข่ายรถไฟใต้ดินอันเก่าแก่ถึง 151 ปี ซึ่งยังใช้บริการสำนักงานจำหน่ายตั๋วรถไฟ TfL กล่าวว่า จะยังเปิดสำนักงานจำหน่ายตั๋วไว้ให้บริการในบางเส้นทาง ขณะที่จะหันมาให้บริการรถบัส และเรือข้ามฟากเพิ่มเติม
TfL กล่าวว่า แผนพัฒนาให้ทันสมัยซึ่งรวมถึงการลดจำนวนลูกจ้างในสถานีรถไฟลง 953 อัตรา สามารถประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องมีการบังคับปลดคนงาน หรือปรับลดค่าแรง ทั้งยังให้สัญญาว่าจะยังมีจ้างพนักงานไว้ประจำตามสถานีรถไฟตลอดเวลา
สหภาพแรงงานโต้แย้งว่า การปลดพนักงานจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการคมนาคม และทำให้การบริการมีคุณภาพต่ำลง ทั้งยังกล่าวว่า การที่การเจรจานาน 8 สัปดาห์ประสบความล้มเหลว เป็นเพราะการบริหารจัดการรถไฟ นอกจากนี้สหภาพระบุว่า คาดหวังว่าประท้วงครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสพูดคุยหารือกันอย่าง “จริงจังและมีความหมาย”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษกล่าวว่า การประท้วงครั้งนี้มีลักษณะ “ไม่ชอบธรรม และไม่เป็นที่ยอมรับ” พร้อมระบุว่า จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวนับล้าน ตลอดจนทำให้เกิดความสับสนอลหม่านขึ้นในภาคธุรกิจ
ทางด้าน กลุ่มล็อบบี้ชี้ว่า การประท้วงของพนักงานรถไฟเมื่อก่อนหน้านี้ได้ทำให้เศรษฐกิจของลอนดอนเสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 50 ล้านปอนด์ต่อวัน (ราว 2.7 พันล้านบาท)