น้ำมันลงหลังอุปสงค์สหรัฐฯ เบาบาง หุ้นมะกันปิดลบ-ทองคำขึ้น

เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันลดลงวานนี้ (23 เม.ย.) หลังคลังสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากกำลังผลิตภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทยักษ์ ขณะที่ทองคำดีดขึ้น เหตุข้อมูลเศรษฐกิจที่น่ากังวลกระตุ้นให้นักลงทุนหันหาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 31 เซ็นต์ ปิดที่ 101.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 16 เซ็นต์ ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันพุธ (23) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองเชิงพาณิชย์ของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล เป็น 397.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กระทรวงพลังงานเริ่มเผยแพร่ข้อมูลรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในปี 1982 และเชื่อว่ามันน่าจะสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1931 เลยทีเดียว

แรงเทขายกลุ่มเทคโนโลยีฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(23) ขยับลงเล็กน้อย เป็นผลให้เอสแอนด์พี สิ้นสุดการปิดบวกต่อเนื่องไว้ที่ 6 วันติด

ดาวโจนส์ ลดลง 12.72 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,501.65 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.16 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,875.39 จุด แนสแดค ลดลง 34.49 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,126.97 จุด

โบอิ้ง, ดาว เคมิคอล และเดลตา แอร์ไลน์ส เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกแข็งแกร่งเกินคาดหมาย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (23) ได้รับผลกระทบเต็มแรง จากผลประกอบการอันห่อเหี่ยวของ อีทีแอนด์ที และแอมเจน

ความกังวลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประกอบกับความตึงเครียดในยูเครนและข้อมูลทางเศรษฐกิจบางอย่างที่ไม่สดใส กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เป็นผลให้ทองคำวานนี้ (23) เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,284.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์