เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นวานนี้ (9 เม.ย.) จากอุปสงค์เบนซินที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก หลังรายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ววันนี้ ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวก็ผลักให้นักลงทุนหันหาสินทรัพย์เสี่ยงและฉุดให้ราคาทองคำลงในกรอบแคบๆ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 31 เซ็นต์ ปิดที่ 107.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยข้อมูลว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 เมษายน เพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสต๊อกเบนซินกลับลดลงเหนือความคาดหมายถึง 5.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์ประมาณการณ์ไว้ว่าจะลดลงแค่ราวๆ 700,000 บาร์เรลเท่านั้น
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (9) ปิดบวก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากรายงานการประชุม minutes ของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดไว้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 181.04 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,437.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.22 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,872.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 70.91 จุด (1.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,183.90 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวในแดนบวกตั้งแต่ช่วงบ่าย และยิ่งดีดตัวแรงขึ้น หลังจากรายงานผลการประชุม minutes ของเฟด ออกมาเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ นั่นคือธนาคารกลางสหรัฐฯนี้จะยังค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผน แต่อีกด้านหนึ่งก็ไม่พบเห็นสัญญาณคลื่นใต้น้ำจากพวกคณะกรรมการที่สนับสนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยเร็ว
ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนปล่อยมือจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แล้วหันไปเก็งกำไรในตลาดทุน จนส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (9) ปรับลดในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,305.90 ดอลาร์ต่อออนซ์