xs
xsm
sm
md
lg

“มาเลเซียแอร์ไลน์ส” ทำเสียวยางระเบิดขณะเหินฟ้า - ออสซีเตรียมปรับแผนค้นหา “MH370”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เที่ยวบิน MH192 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งนำผู้โดยสาร 166 คนเดินทางไปบังเมืองบังกาลอร์ของอินเดีย ประสบปัญหาฐานล้อขัดข้องจนต้องบินกลับมาลงจอดที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์อย่างปลอดภัย เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ (21)
เอเจนซีส์ – ภาพพจน์ด้านความปลอดภัยของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส สั่นคลอนอีกครั้ง หลังจากเที่ยวบินสู่บังกาลอร์ต้องวนกลับลงจอดฉุกเฉินที่กัวลาลัมเปอร์ เนื่องจากยางระเบิดขณะทะยานขึ้น ขณะที่การค้นหา MH370 ทั้งใต้น้ำและเหนือผิวน้ำยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติมใดๆ และออสเตรเลียเผยเร็วๆ นี้ อาจต้องปรับกลยุทธ์การค้นหาใหม่อีกหน

มาเลเซีย แอร์ไลน์ส (MAS) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (20) ว่า เที่ยวบิน MH192 ที่เดินทางด้วยเครื่องโบอิ้ง 737-800 และมีจุดหมายปลายทางที่เมืองบังกาลอร์ในอินเดีย ต้องวกกลับสู่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เนื่องจากสายการบินให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัย

ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย ทวีตว่า เที่ยวบินดังกล่าวพร้อมผู้โดยสาร 159 คนและลูกเรือ 7 คน ลงจอดอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 0.56 น. วันจันทร์ (ตามเวลาไทย) หรือเกือบ 4 ชั่วโมงหลังขึ้นจากสนามบิน เพื่อใช้เชื้อเพลิงให้ได้ตามกำหนดก่อนลงจอด

อนึ่ง เดือนที่ผ่านมา เที่ยวบินของ MAS ที่มุ่งหน้าสู่โซลต้องหันหัวกลับสู่ฮ่องกงเนื่องจากข้อบกพร่องของระบบไฟฟ้า

ชื่อเสียงด้านความปลอดภัยของ MAS ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสูญหายปริศนาของเที่ยวบิน MH370 ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมในเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ซึ่งเชื่อกันว่า เครื่องบินถูกเปลี่ยนเส้นทางโดยเจตนาและสุดท้ายตกลงในมหาสมุทรอินเดียพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน

ปฏิบัติการค้นหา MH370 ของนานาชาติที่มีออสเตรเลียเป็นผู้นำทีมและประสานงาน พยายามสำรวจบริเวณที่เชื่อว่า เป็นจุดตกอย่างละเอียดเพื่อค้นหาซากเครื่องบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบินเพื่อไขปริศนาการหายสาบสูญของเครื่องบินลำนี้

ทว่า หลังจากค้นหามาครบ 45 วันในวันจันทร์ยังไม่พบชิ้นส่วนใดๆ ของเครื่องบิน เบาะแสเท่าที่มีคือ สัญญาณจากใต้น้ำที่เชื่อว่า มาจากกล่องบันทึกข้อมูลการบินของ MH370 อย่างไรก็ดี ตลอดเวลาเกือบ 2 สัปดาห์มานี้ไม่พบสัญญาณใต้น้ำอีกเลย ซึ่งเป็นไปได้ว่า เนื่องจากแบตเตอรี่ของกล่องบันทึกข้อมูลการบินหมดพลังงาน
 (แฟ้มภาพ) เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของยานดำน้ำอัตโนมัติ (AUV) อาร์เทมิส ซึ่งถูกส่งเข้าร่วมในปฏิบัติการค้นหาเที่ยวบิน MH370 ในมหาสมุทรอินเดีย
นอกจากนั้น การส่งยานดำน้ำอัตโนมัติ บลูฟิน-21 พร้อมอุปกรณ์สแกนสัญญาณโซนาร์ลงไปสำรวจใต้ทะเลในความลึกอย่างต่ำ 4,500 เมตรมานานกว่าสัปดาห์ ครอบคลุมพื้นที่ค้นหาที่กำหนดไว้ 2 ใน 3 ยังคงไม่พบร่องรอยใดๆ เช่นเดียวกัน

ศูนย์ประสานงานตัวแทนร่วม (JACC) ของออสเตรเลียแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า บลูฟิน-21 จะปฏิบัติภารกิจค้นหารอบที่ 9 ในวันจันทร์ในรัศมี 10 กิโลเมตรที่ค้นพบสัญญาณใต้น้ำเมื่อต้นเดือน และคาดว่า ภารกิจทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่เครื่องบินทหาร 10 ลำ และเรือ 11 ลำค้นหาซากเครื่องบินบนผิวน้ำในอาณาบริเวณเกือบ 50,000 กิโลเมตร

JACC ยังระบุว่า การค้นหาอาจเผชิญอุปสรรคจากพายุหมุนเขตร้อนแจ็คที่กำลังมุ่งหน้าสู่บริเวณดังกล่าว

แนวโน้มที่การค้นหาจะจบลงโดยปราศจากความคืบหน้าใดๆ ส่งผลให้ทีมค้นหาถูกกดดันให้พิจารณากลยุทธ์ต่อไป

รัฐบาลมาเลเซียนั้นระบุว่า การค้นหามาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ และรัฐมนตรีคมนาคมสำทับว่า อาจพิจารณาเพิ่มเรือดำน้ำอัตโนมัติในการค้นหา

ขณะเดียวกัน คิม บีซลีย์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ในอีกไม่กี่วันนี้หากยังไม่พบเบาะแสใดๆ ออสเตรเลียจะพิจารณาว่า จะเปลี่ยนแปลงหรือลดระดับการค้นหา MH370 หรือไม่ โดยจะหารือกับทุกประเทศที่ร่วมค้นหา

การเปลี่ยนแปลงที่ว่าจะรวมถึงการปรับปฏิบัติการค้นหาทางอากาศและพื้นผิวน้ำ และความเป็นไปได้ในการนำผู้รับช่วงสัญญาภาคเอกชนมาแทนทรัพยากรทางทหารบางส่วน

นอกจากนี้ JAAC ยังอาจประเมินการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการระบุตำแหน่งที่มาสัญญาณ ping จากใต้มหาสมุทรใหม่ รวมถึงสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่ MH370 ส่งโต้ตอบกับดาวเทียมสื่อสาร
ญาติผู้โดยสารชาวจีนที่สูญหายไปกับเที่ยวบิน MH370 กล่าวแสดงความรู้สึกทั้งน้ำตาขณะเข้าร่วมงานแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมเมโทร พาร์ค ในกรุงปักกิ่งวันนี้ (21 เม.ย.)
กำลังโหลดความคิดเห็น