xs
xsm
sm
md
lg

“ไบเดน” รอง ปธน.มะกัน บินประเมินสถานการณ์ถึงเคียฟ - มอสโกชี้ยูเครน “ละเมิด” สัญญาพักรบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกกองกำลังสนับสนุนรัสเซียสวมหมวกปกปิดใบหน้า ยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูมิภาคในเมืองสลาฟยันสค์ ซึ่งถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครนยึดเอาไว้ได้ เมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา
เอเจนซีส์ – รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน เดินทางถึงเคียฟแล้วเพื่อยืนยันการสนับสนุนของอเมริกา ขณะที่มอสโกกล่าวหายูเครนละเมิดข้อตกลงเจนีวาจากเหตุสังหารกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออก รัสเซียยังเย้ยหยันการขู่แซงก์ชันของตะวันตก โดยเฉพาะข่าวที่ระบุว่า วอชิงตันสามารถจัดการกับบัญชีส่วนตัวของปูตินในสวิตเซอร์แลนด์ได้โดยตรง

สถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนช่วงเช้าวันจันทร์ (21) สงบเรียบร้อยดีโดยที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนเครมลินยังคงควบคุมอาคารรัฐบาลในอย่างน้อย 10 เมือง ผิดกับในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันอีสเตอร์ ที่เกิดเหตุยิงกันที่จุดตรวจบนถนนใกล้เมืองสลาเวียนสค์ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยึดครองอยู่ ทำให้กลุ่มกบฏเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน

กลุ่มผู้ก่อการที่สนับสนุนมอสโกในเมืองนี้ ตลอดจนถึงรัสเซียกล่าวหาว่า เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของไรต์ เซ็กเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมสุดขั้วที่ร่วมประท้วงในเคียฟกระทั่งอดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ที่จงรักภักดีต่อรัสเซีย หลุดจากตำแหน่ง

ทว่า เจ้าหน้าที่ยูเครน และไรต์ เซ็กเตอร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น และโต้กลับว่า เป็น “การโฆษณาชวนเชื่อ” และการสร้างสถานการณ์ของกองกำลังพิเศษของรัสเซีย รวมทั้งเยาะหยันข่าวของสื่อแดนหมีขาวที่ระบุว่า พบนามบัตรของผู้นำกลุ่มไรต์ เซ็กเตอร์ในรถคันหนึ่งของกลุ่มผู้โจมตี

เวเชตสลาฟ โปโนมารอฟ ผู้นำท้องถิ่นของสลาเวียนสค์ เผยว่า สมาชิกกลุ่มกบฏ 3 คน และผู้โจมตี 2 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ทว่า ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เห็นร่างผู้เสียชีวิตเพียง 2 รายเท่านั้น

โปโนมารอฟประกาศห้ามประชาชนออกจากบ้านหลังเที่ยงคืนจนถึงรุ่งเช้า พร้อมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียส่งทหารเข้าไป “รักษาสันติภาพ” หรืออย่างน้อยส่งอาวุธไปช่วยต่อสู้กับ “ฟาสซิสต์”

ทางด้าน เซอร์เกย์ ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ประณามเหตุรุนแรงในเมืองสลาเวียนสค์โดยระบุว่า “ข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ถูกละเมิด” ฟ้องว่า รัฐบาลยูเครนไม่มีเจตนาควบคุมและปลดอาวุธกลุ่มชาตินิยมและกลุ่มหัวรุนแรง

ขณะเดียวกัน โฆษกองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ที่ทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงเจนีวาที่ระบุให้กลุ่มติดอาวุธทุกฝ่ายในยูเครนวางอาวุธและออกจากสถานที่ราชการที่ยึดครอง เผยว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียออกจากอาคารที่ยึดครองอยู่แต่อย่างใด

ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนจะหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในภาคตะวันออกของยูเครนระหว่าง 2 วันที่อยู่ในเคียฟ โดยในวันจันทร์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดพบกับเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกันในเคียฟ ส่วนในวันอังคาร (22) จะพบกับโอเล็กซานเดอร์ เทอร์ชินอฟ และอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค รักษาการประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเครนตามลำดับ รวมถึงสมาชิกรัฐสภายูเครน

วอชิงตันนั้นมองว่า มอสโกอยู่เบื้องหลังการก่อความไม่สงบในยูเครนด้วยการส่งกองกำลังพิเศษเข้าไปสร้างสถานการณ์และร่วมมือกับกลุ่มกบฏ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตือนว่า รัสเซียมีเวลาเหลือ “ไม่กี่วัน” ในการโน้มน้าวให้กลุ่มกบฏปฏิบัติตามข้อตกลงเจนีวาที่เกิดจากการหารือระหว่างยูเครน รัสเซีย อเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (17) ไม่เช่นนั้น มอสโกอาจถูกตะวันตกลงโทษเพิ่ม

ทว่า รัสเซียที่ส่งกองกำลังเข้าไปและผนวกไครเมียเมื่อเดือนที่แล้ว ตอบโต้ว่า วอชิงตันไม่ควรขู่เหมือน “เด็กเกเร” รวมทั้งยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลที่รัสเซียจะต้องถูกลงโทษ

ส่วนปูตินนั้นแม้ยอมรับว่า กองทัพรัสเซียมีบทบาทสำคัญในไครเมีย แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธว่า ทหารรัสเซียไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในดินแดนทางตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ดี ปูตินสำทับว่า เครมลินมีสิทธิ์ในการส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครนที่มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และภาษาร่วมกัน

นอกจากนี้ โฆษกเครมลินยังสวนกลับว่า การอ้างว่าวอชิงตันสามารถลงโทษปูตินโดยตรงเป็นเรื่อง “ไร้สาระ” หลังจากหนังสือพิมพ์ไทม์ของอังกฤษรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวนิรนามว่า อเมริกาอาจดำเนินการกับบัญชีของปูตินในสวิตเซอร์แลนด์ที่มีเงินฝากอยู่ราว 40,000 ล้านดอลลาร์

ส่งท้ายด้วยเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ เซอร์เก คิสซิลยาค ที่ชี้ว่า มาตรการลงโทษเป็นการรื้อฟื้นแนวคิดเกี่ยวกับสงครามเย็น กระนั้น มอสโกสามารถต้านทานความกดดันดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

กำลังโหลดความคิดเห็น