เอเอฟพี/เอพี - มียอดเสียชีวิตแล้วล่าสุดจำนวนอย่างน้อย 12 รายหลังจากเกิดเหตุการณ์หิมะถล่มครั้งร้ายแรงที่สุดบนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่สูงที่สุดในโลกช่วงเช้าวันนี้ (18)
เกิดหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอเรสต์ในเวลา 6.45 น. วันนี้ (18) สังหารไกด์เชอร์ปาชาวเนปาลไปแล้วอย่างน้อย 12 รายในช่วงที่ไกด์นำทางเหล่านี้กำลังจัดเตรียมเชือกให้พร้อมล่วงหน้าเพื่อนักท่องเที่ยว โดยไกด์เชอร์ปาเป็นผู้ที่แบกสัมภาระ อาหาร เต็นท์ และเชือกสำหรับนักปีนเขาต่างชาติทั้งหลายที่ต้องการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ โดยพบว่า บริเวณที่เกิดหิมะถล่มนั้นอยู่ที่ความสูงราว 5,800 ม. ที่เรียกว่า “ทุ่งป๊อปคอร์น”
“เราสามารถค้นหาร่างผู้เสียชีวิตได้แล้วราว 12 ราย แต่ไม่รู้ว่ามีอีกจำนวนเท่าไรที่ยังติดอยู่ใต้หิมะ” ดิเปนดรา ปอเดล ( Dipendra Paudel) เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวเนปาลเผยกับเอเอฟพี
นอกจากนี้มีเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยที่ถูกส่งมาจากกรุงกาฐมาณฑุเพื่อทำการค้นหา รวมไปถึงกลุ่มนักปีนเขายังคงค้นหาผู้รอดชีวิต ที่พบว่าสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกจากใต้หิมะและนำ้แข็งได้แล้ว 7 คน ปอเดลเผยต่อ
เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยทำงานที่เบสแคมป์ที่ความสูง 8,848 ม. ลาคปา เชอร์ปา (Lakpa Sherpa) ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า ยอดเสียชีวิตอาจมีสูงถึง 14 ราย
“ผมเห็นร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ร่างที่ได้ถูกนำมาส่งที่เบสแคมป์ และทางเจ้าหน้าที่คาดว่าต้องมีอีก 3 ราย” เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยหิมาลายาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
และ เอลิซาเบธ ฮอลีย์ ผู้เชี่ยวชาญที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงของเนปาลให้ความเห็นถึงเหตุการณ์หิมะถล่มในวันนี้ (18) ว่า เป็นครั้งร้ายแรงที่สุด ซึ่งเคยเกิดก่อนหน้านี้ในปี 1996 คร่าชีวิตคนไปถึง 8 คนในช่วงเวลา 2 วันที่เกิดพายุโหมหนัก
ทางด้านบริษัทนำปีนเขาในกรุงกาฐมาณฑุ “Himalayan Climbing Guides Nepal” ได้ยืนยันว่า มีไกด์นำทางของบริษัท 2 คน อยู่ในจำนวนของผู้เสียชีวิต และยังมีอีก 4 คนที่ยังสูญหาย
และก่อนหน้านี้ เนปาลประกาศถึงมาตรการที่จะมีขึ้นในปีนี้เพื่อที่จะควบคุมจำนวนการเข้ามาของนักปีนเขา เพื่อลดความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพการกู้ภัย รวมไปถึงจัดให้มีเจ้าหน้าที่เนปาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ที่เบสแคมป์ ในช่วงฤดูกาลปีนเขาตลอดทั้งฤดูที่จะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม โดยพบว่าในปีนี้รัฐบาลเนปาลได้ออกใบอนุญาตให้นักปีนเขาจำนวน 734 คน และไกด์นำทางอีก 400 คน
จากสถิติพบว่ามีนักปีนเขาจำนวนมากกว่า 4,000 คน สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ตั้งแต่ปี 1953 อย่างไรก็ตามมีจำนวนนักไต่เขาอีกหลายร้อยคนต้องมาจบชีวิตที่นี่
