เอเอฟพี - บรรดานักไต่ยอดเขาเอเวอเรสต์จะต้องนำขยะน้ำหนัก 8 กิโลกรัมกลับลงมาด้วย เพื่อเป็นการทำตามกฎข้อบังคับใหม่ที่มุ่งรักษาความสะอาดให้แก่ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐเนปาลกล่าววันนี้ (3 มี.ค.)
มาธุสุดาน บูร์ลาโกตี เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวเนปาล ระบุว่า กฎข้อนี้เป็นหนึ่งในมาตรการหลายข้อ ที่ชาติหิมาลัยแห่งนี้จะนำมาบังคับใช้กับพวกนักปีนเขา ในพื้นที่ซึ่งอยู่เลยจุดกางเต็นท์บนยอดเขาเอเวอเรสต์ขึ้นไป นับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้
“รัฐบาลตัดสินใจทำเช่นนี้เพื่อรักษาความสะอาดบนยอดเขาเอเวอเรสต์ สมาชิกในคณะเดินทางแต่ละคนจะต้องนำขยะที่ไม่ใช่ของตัวเองอย่างน้อย 8 กิโลกรัมกลับลงมาด้วย” เขาเน้นย้ำ
นอกจากนี้ บูร์ลาโกตี ยังกล่าวด้วยว่า ทางการเนปาลจะเอาผิดกับนักปีนเขาที่ไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับใหม่ แม้ว่าจะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะลงโทษด้วยการปรับ หรือใช้บทลงโทษอื่นๆ
ภายหลังที่ผู้คนแห่แหนมาพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นเวลาหลายทศวรรษ สภาพแวดล้อมในบริเวณนี้ก็เสื่อมโทรมลง เนื่องจากคณะนักเดินทางทิ้งขยะเกลื่อนกลาดไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็น ถังแก๊สหุงต้ม อุจจาระ ปัสสาวะ และกระทั่งศพของนักปีนเขา ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายในสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากๆ
คณะนักเดินทางจะต้องนำขยะที่เก็บรวบรวมได้ส่งให้แก่สำนักงาน ที่กำลังจะก่อตั้งขึ้นบริเวณจุดกางเต็นท์ในเดือนหน้า ซึ่งภายในสำนักงานดังกล่าวจะมีจุดรักษาพยาบาล และเจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง ภายหลังที่เมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนักปีนเขาชาวยุโรปกับไกด์ชาวเนปาล
แม้ว่าในตอนนี้คณะนักปีนเขาจะต้องจ่ายเงินมัดจำ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 130,200 บาท) และได้รับเงินคืนเมื่อพวกเขานำทุกสิ่งทุกอย่างที่นำขึ้นไปบนยอดเขากลับลงมา การบังคับใช้กฎนี้ก็ยังมีช่องโหว่
“เมื่อก่อนหน้านี้ ความพยายามของเราไม่ค่อยได้ผลนัก แต่ตอนนี้ถ้านักปีนเขาไม่นำขยะกลับลงมาด้วย เราจะดำเนินคดีและลงโทษพวกเขา” บูร์ลาโกตีกล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว เนปาลได้ลดค่าธรรมเนียมสำหรับนักปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขาอื่นๆ บนเทือกเขาหิมาลัยที่ไม่ได้เดินทางมาเป็นคณะ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้น จนเกิดความกังวลว่าอาจเป็นการสร้างปัญหาการจราจร และขยะมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเดือนที่แล้วทางการเนปาลระบุว่า จะส่งทหารและตำรวจมาประจำอยู่ที่สำนักงานใหม่ ในบริเวณจุดตั้งเต็นท์นักท่องเที่ยว เพื่อคอยดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหา โดยถือเป็นการยกเครื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยบนยอดเขาแห่งนี้
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักปีนเขาได้เพียรพยายามให้ความสำคัญกับปัญหาขยะมานานแล้ว ขณะที่มีการจัดตั้งโครงการทำความสะอาดขึ้นมาหลายโครงการเช่นกัน
ถังออกซิเจน ถังแก๊สหุงต้ม เชือก เต็นท์ แก้วน้ำ กระป๋องเบียร์ พลาสติกที่ถูกโยนทิ้งไว้ และแม้กระทั่งเศษชิ้นส่วนเครื่องบิน ได้ถูกนำมาจัดแสดงเป็นผลงานศิลปะ 75 ชิ้นในนิทรรศการที่กรุงกาฐมัณฑุ เมื่อปี 2012 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวบนเทือกเขาแอลป์ทีมีต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศที่ยากจนแห่งนี้ โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนหลายร้อยคนแห่งแหนกันมาปีนเขา ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูปีนเขา