เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียอนุมัติโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ในนครซิดนีย์แล้ว วันนี้ (15) หลังปล่อยเรื่องค้างคามานานหลายสิบปี โดยนายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในแดนจิงโจ้ให้คึกคักยิ่งขึ้น
แอบบ็อตต์ยืนยันว่า สนามบินนานาชาติใหม่จะสร้างขึ้นที่ย่านแบดเจอรีส์ครีก (Badgerys Creek) ทางฝั่งตะวันตกของนครซิดนีย์ โดยจะเริ่มวางแผนโครงการในทันที และลงมือก่อสร้างภายในปี 2016
สนามบินนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธซึ่งเป็นประตูหลักที่เปิดรับนักท่องเที่ยวสู่แดนจิงโจ้ เริ่มทวีความแออัดขึ้นเรื่อยๆ โดยรัฐมนตรีคมนาคมชี้ว่า สนามบินแห่งนี้ “สร้างขึ้นในยุคที่เครื่องบินยังมีขนาดเล็ก และมีไม่มากนัก”
แอบบ็อตต์เตือนว่า หากไม่สร้างสนามบินแห่งที่ 2 มาช่วยผ่อนภาระ ซิดนีย์จะกลายเป็นเมืองที่ “ด้อยประสิทธิภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวอย่างรุนแรง” เพราะสนามบินแห่งเดียวในปัจจุบันไม่สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอีกหลายสิบปีข้างหน้าได้
แบดเจอรีส์ครีกซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกราวๆ 45 กิโลเมตร ถูกเสนอให้เป็นสถานที่ตั้งสนามบินแห่งที่ 2 มานานหลายสิบปี ทว่าโครงการก็ไม่คืบหน้า เพราะรัฐบาลเกรงกระแสต่อต้านจากประชาชนในท้องถิ่น
แอบบ็อตต์ซึ่งชนะเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อเดือนกันยายนประกาศตัวว่าจะเป็น “นายกฯ ผู้ริเริ่มโครงสร้างพื้นฐาน” โดยเน้นนโยบาย “ตัดถนนเป็นอันดับแรก และสร้างสนามบินเป็นอันดับสอง”
งบประมาณในการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ถูกประเมินไว้ที่ราวๆ 2,500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการระดมทุนจากภาคเอกชน และคาดว่าจะเปิดรับเที่ยวบินแรกได้ในช่วงกลางทศวรรษ 2020 เป็นอย่างเร็ว
รัฐบาลออสเตรเลียจะให้สิทธิ์ปฏิเสธก่อน (the right of first refusal) แก่บริษัท เซาเทิร์น ครอสส์ แอร์พอร์ตส คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ ในการลงทุนสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่แบดเจอรีส์ครีก
แอบบ็อตต์เชื่อว่าการก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ในซิดนีย์จะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน และจะทำให้ตัวเลขจีดีพีของออสเตรเลียขยับเพิ่มเป็น 24,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียภายในปี 2060
รัฐบาลออสเตรเลียประเมินด้วยว่า สนามบินแห่งที่ 2 จะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มถึง 4,000 ตำแหน่งในขั้นตอนของการก่อสร้าง และจะเพิ่มเป็น 35,000 ตำแหน่งภายในปี 2035 ก่อนจะขยับเป็น 60,000 ตำแหน่งในอนาคต