เอเอฟพี – รัฐบาลชิลีระดมทหารเข้าช่วยเหลือประชาชนหลายพันคนในเมืองท่าวัลปาไรโซ (Valparaiso) หลังเกิดไฟป่ารุนแรงเผาผลาญบ้านเรือนไปแล้วกว่า 500 หลัง และยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ประธานาธิบดี มิเชล บาเชเลท แห่งชิลีได้ประกาศเขตภัยพิบัติในเมืองซึ่งเป็นมรดกโลก เพื่อส่งทหารเข้าไปช่วยอพยพชาวบ้านออกมายังสถานที่ปลอดภัย
“นี่เป็นหายนะที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดกับเมืองวัลปาไรโซ” ริคาร์โด บราโว ผู้บริหารราชการท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนชิลี
แม้จะยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่สื่อท้องถิ่นอ้างว่ามีชาวบ้านถูกไฟป่าคร่าชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นคู่สามีภรรยาสูงวัย และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน
เมืองท่าแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 270,000 คน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และอยู่ห่างจากกรุงซันติอาโกประมาณ 110 กิโลเมตร
ประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ตามเนินเขาต้องอพยพหนีไฟป่าแล้วกว่า 3,000 คน กระแสลมแรงส่งผลให้เปลวไฟลุกลามลงมาตามลาดเขา มุ่งหน้าสู่ท่าเรือและบริเวณใจกลางเมืองซึ่งถูกประกาศเป็นมรดกโลก
ชาวบ้านส่วนใหญ่จ้องมองดูเปลวเพลิงเผาผลาญบ้านเรือนที่อยู่ห่างออกไปอย่างไร้ความหวัง ขณะที่ชาวประมงซึ่งส่วนหนึ่งเดินทางมาจากกรุงซันติอาโกก็ไม่อาจสกัดกั้นเพลิงที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงได้
เมืองวัลปาไรโซมีพื้นที่ครอบคลุมเนินเขากว่า 40 ลูก ซึ่งทำให้ยานพาหนะของหน่วยกู้ภัยเข้าถึงได้ยาก ขณะที่หลายพื้นที่ในเมืองต้องประสบปัญหาไฟฟ้าดับและน้ำประปาถูกตัด
สำหรับสาเหตุของไฟป่าในครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
วัลปาไรโซ นับเป็นเมืองท่าที่ทำสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชิลี ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เมืองแห่งนี้เคยเป็นจุดพักสำหรับเรือที่จะเดินทางล่องไปตามชายฝั่งอเมริกาใต้เพื่ออ้อมไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก
อาคารเก่าสีสดใสอายุนับร้อยๆ ปีในย่านใจกลางเมืองซึ่งสร้างโดยผู้อพยพชาวยุโรป และระบบรถรางที่แล่นไปตามเนินเขา เป็นคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ทำให้วัลปาไรโซได้รับยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี 2003