xs
xsm
sm
md
lg

In Pics & Clips: ไฟป่าชิลีผลาญ “เมืองมรดกโลก” คร่าแล้ว 12 ศพ-ชาวบ้านอพยพหนีตาย “เฉียดหมื่น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนุ่มชาวชิลีนั่งมองดูบ้านเรือนที่กำลังถูกไฟป่าโหมกระหน่ำบนเนินเขาในเมืองวัลปาไรโซ (Valparaiso) เมืองท่ามรดกโลกของชิลี เมื่อวันเสาร์(12)
เอเอฟพี – ชาวบ้านกว่า 8,000 คนในเมืองวัลปาไรโซ (Valparaiso) ของชิลีพากันอพยพหนีตายเมื่อวานนี้(13) ในขณะที่หน่วยดับเพลิงและทหารต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมไฟป่าซึ่งลุกลามเผาผลาญเมืองท่ามรดกโลก ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 คน





ไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์(12) เผาผลาญบ้านเรือนไปกว่า 500 หลัง และกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองท่าสำคัญที่มีประชากรกว่า 270,000 คน

แม้ย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่อายุนับร้อยปียังคงไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่สำหรับเมืองวัลปาไรโซโดยรวมนั้น สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง

“เรายังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน... และเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก” ฆอร์เก เบอร์โกส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมชิลี ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุ เรดิโอ คอร์เปราติวา

เนินเขาในย่านรามาดิตัส, ปาโฆนัล และ มาริโปซัส เป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำเนื่องจากกระแสลมแรง

ประธานาธิบดี มิเชล บาเชเลท แห่งชิลีได้ประกาศให้พื้นที่บางส่วนในเมืองวัลปาไรโซเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อเปิดทางให้กองทัพเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ประธานาธิบดีก็ได้เดินทางไปยังเมืองท่าแห่งนี้เพื่อควบคุมปฏิบัติการกู้ภัยด้วยตนเอง

บาเชเลท ระบุว่า “นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย และเป็นเหตุไฟไหม้ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวัลปาไรโซ”

สำหรับสาเหตุของไฟป่าครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ในเบื้องต้นตำรวจระบุว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย แต่ต่อมาได้ปรับลดตัวเลขลงเหลือเพียง 12 ราย โดยอ้างความสับสนระหว่างข้อมูลที่ตำรวจได้รับกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเมือง

การอพยพประชาชนหนีไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นการอพยพรอบ 2 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเมื่อวันที่ 1 เมษายนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.2 จนมีประกาศเตือนคลื่นสึนามิ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจราว 3,500 นายพยายามสกัดกั้นไฟซึ่งเผาผลาญพื้นที่ป่าและบ้านเรือนไปแล้วราวๆ 2,000 เอเคอร์ และมีการส่งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกสารเคมี 17 ลำขึ้นไปช่วยดับไฟอีกทางหนึ่ง

วัลปาไรโซ นับเป็นเมืองท่าที่ทำสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชิลี ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เมืองแห่งนี้เคยเป็นจุดพักสำหรับเรือที่จะเดินทางล่องไปตามชายฝั่งอเมริกาใต้เพื่ออ้อมไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก

อาคารเก่าสีสดใสอายุนับร้อยๆ ปีในย่านใจกลางเมืองซึ่งสร้างโดยผู้อพยพชาวยุโรป และระบบรถรางที่แล่นไปตามเนินเขา เป็นคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ทำให้วัลปาไรโซได้รับยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี 2003





กำลังโหลดความคิดเห็น