เอเอฟพี – กลุ่มความริเริ่มไม่แพร่ขยายและลดการสะสมอาวุธ (Non-Proliferation and Disarmament Initiative – NPDI) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ มีถ้อยแถลงตำหนิกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือว่า “เป็นภัยต่อเสถียรภาพของโลก” พร้อมเรียกร้องให้โสมแดงปฏิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ (เอ็นพีที)
เอ็นพีดีไอ ซึ่งจัดการประชุมขึ้นที่เมืองฮิโรชิมาเมื่อวานนี้(12) วิพากษ์วิจารณ์โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่จากทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เข้าไปตรวจสอบ ตลอดจนหวนกลับมาปฏิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
“เราขอประณามโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง เพราะเป็นการบั่นทอนสนธิสัญญาเอ็นพีที ตลอดจนเป็นภัยใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั้งระดับภูมิภาคและนานาชาติ” ถ้อยแถลงจากเอ็นพีดีไอ ระบุ
“เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด และยกเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์ทุกประเภทที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงของไอเออีเอ และสนธิสัญญาเอ็นพีที”
เอ็นพีดีไอ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2010 ประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา,ชิลี, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, ไนจีเรีย, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ในการประชุมครั้งนี้ เอ็นพีดีไอ ยังแนะให้ผู้นำทุกประเทศที่ยังครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เดินทางมายังเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ซึ่งเป็น 2 เมืองที่ถูกทำลายล้างด้วยระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 “เพื่อจะได้เห็นผลลัพธ์ของมันด้วยตาตนเอง”
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวโดยการยิงทดสอบกระสุนจริงบริเวณน่านน้ำพิพาทกับเกาหลีใต้, ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีศักยภาพพอจะโจมตีถึงหมู่เกาะญี่ปุ่น, ส่ง “โดรน” เข้าไปสอดแนมในเกาหลีใต้ และขู่ที่จะทดสอบนิวเคลียร์ “แบบใหม่” ในเร็วๆนี้