“เบอร์เกอร์คิง” ประกาศบุกตลาดไครเมีย หลังคู่แข่งสำคัญ “แมคโดนัลด์” ถอนตัว

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “เบอร์เกอร์คิง” แบรนด์ร้านอาหารจานด่วนชื่อดังของสหรัฐฯ ประกาศในวันพุธ (9 เม.ย.) เตรียมเปิดสาขาใน “ไครเมีย” ฉวยโอกาสทองที่คู่แข่งสำคัญอย่าง “แมคโดนัลด์” ตัดสินใจถอนตัวจากการทำธุรกิจและปิดสาขาที่มีอยู่ 3 แห่งในดินแดนดังกล่าวที่เพิ่งแยกตัวออกจากยูเครน และถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

รายงานข่าวระบุว่า เบอร์เกอร์คิงซึ่งก่อตั้งกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 และมีฐานอยู่ในเขตไมอามี-เดด เคาน์ตีในมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ประกาศบุกตลาดไครเมียอย่างเป็นทางการ โดยทางเบอร์เกอร์คิงซึ่งยังไม่เคยมีสาขาของตนในไครเมียมาก่อน จะใช้ทีมงานจาก “เบอร์เกอร์คิง รัสเซีย” ที่นำโดยซีอีโอ ดมิตรี เมโดวี เป็นแม่ทัพในการเจาะตลาดในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ทางเบอร์เกอร์คิงยังไม่เปิดเผยว่าจะเริ่มเปิดสาขาแรกในไครเมียเมื่อใด และไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะเปิดดำเนินการกี่สาขาในดินแดนแห่งนี้

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางเบอร์เกอร์คิง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์อาหารจานด่วนที่ใหญ่เป็น “อันดับที่ 5 ของโลก” ในด้านของยอดขาย และมีสาขามากกว่า 12,600 แห่งใน 86 ประเทศทั่วโลกนั้นมีขึ้นหลังจากค่ายแมคโดนัลด์ประกาศเมื่อวันที่ 3 เมษายนถึงการยุติการดำเนินธุรกิจชั่วคราวในคาบสมุทรไครเมีย โดยอ้างเหตุผลด้านการผลิต ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่าแมคโดนัลด์ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ กดดันหนักให้ถอนธุรกิจออกจากไครเมีย หลังจากที่ดินแดนแห่งนี้จัดลงประชามติเพื่อแยกตัวออกจากยูเครน และถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย

ล่าสุดมีรายงานว่า ทางแมคโดนัลด์ได้ประกาศให้พนักงานของตนที่เคยทำงานในสาขาที่ไครเมีย โอนย้ายไปทำงานในสาขาอื่นๆ ที่อยู่นอกคาบสมุทรแห่งนี้ได้ และทางแมคโดนัลด์ยังทำการลบข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับสาขาในไครเมียออกจากเว็บไซต์ของตนแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเพราะเหตุใดรัฐบาลอเมริกันจึงไม่กดดันทางเบอร์เกอร์คิงไม่ให้บุกตลาดไครเมียเช่นเดียวกับที่เคยกดดันให้แมคโดนัลด์ถอนตัวจากดินแดนแห่งนี้ ทั้งๆ ที่เบอร์เกอร์คิงซึ่งมีสาขากว่า 200 แห่งในรัสเซียก็เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันเช่นเดียวกับแมคโดนัลด์