รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยของยูเครน ออกโรงในวันอาทิตย์ (6) กล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียว่า อยู่เบื้องหลังการบุกยึดที่ทำการของรัฐบาลยูเครนหลายแห่งทั่วภาคตะวันออกของประเทศ ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสนับสนุนรัสเซียได้ก่อเหตุบุกยึดที่ทำการรัฐบาลเพิ่มเติมในเมือง “คาร์คิฟ”
อวาคอฟระบุว่า นอกเหนือจากผู้นำรัสเซียแล้ว วิกตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครน ที่ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนจากตำแหน่งก็มีบทบาทในการสมคบคิดกับรัฐบาลรัสเซีย และปลุกปั่นให้เกิดความตึงเครียดในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนเช่นกัน
“ปูติน และยานูโควิช คือผู้ออกคำสั่งให้เกิดการบุกยึดสถานที่ราชการ และเป็นผู้ว่าจ้างให้พวกแบ่งแยกดินแดน ออกมาก่อความไม่สงบทางภาคตะวันออกของยูเครน” รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนเผยผ่านหน้า “เฟซบุ๊ก” ของเขาในวันอาทิตย์ (6) พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยูเครนเร่งหาทางควบคุมสถานการณ์และนำความสงบสุขกลับคืนมาโดยเร็ว
ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานในวันอาทิตย์ (6) ว่า กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสนับสนุนรัสเซียได้บุกเข้ายึดอาคารที่ทำการของรัฐบาลยูเครนในเมืองคาร์คิฟ พร้อมโบกธงชาติรัสเซียแสดงสัญลักษณ์ในการต่อสู้กับรัฐบาลชุดใหม่ของยูเครนที่มีจุดยืนฝักใฝ่ตะวันตก
การบุกเข้ายึดที่ทำการของรัฐบาลยูเครนในเมืองคาร์คิฟ ส่งผลให้อาคารที่ทำการรัฐบาลยูเครน ในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศถูกบุกยึดได้แล้วถึง 3 แห่งภายในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขึ้นที่เมืองโดเนตส์ก และเขตลูฮานส์ก ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสนับสนุนรัสเซีย เตรียมยื่นข้อเรียกร้องกดดันให้สมาชิกรัฐสภาในพื้นที่เร่งหาทางจัดการลงประชามติเพื่อแบ่งแยกดินแดนต่างๆทางตะวันออก ออกจากการปกครองของยูเครน หวังเดินตามรอยของสาธารณรัฐปกครองตนเอง “ไครเมีย” ที่จัดการลงประชามติแยกตัวจากยูเครน และถูกผนวกรวมเข้ากับรัสเซียไปก่อนหน้านี้