รัสเซียแนะมะกันใจร่มๆ ยอมรับไครเมียเป็นของตนแล้ว จวกนาโตเสริมกำลังในยุโรป

รอยเตอร์ - ทูตระดับสูงรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (3) แนะสมาชิกสภาสหรัฐฯใจเย็นๆ หันไปฝึกโยคะหรือไม่ก็ใช้เวลาไปลดความอ้วน แล้วยอมรับว่าตอนนี้ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของมอสโกแล้ว ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศต้องการคำตอบจากนาโต ต่อความเคลื่อนไหวในยุโรปตะวันออก หลังจากพันธมิตรทหารตะวันตกให้คำมั่นกระชับการป้องกันแก่สมาชิกตะวันออก

การที่รัสเซียผนวกเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อเดือนที่แล้ว นำมาซึ่งวิกฤตตะวันออก-ตะวันตกครั้งเลวรายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นยุติลงเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน โดยทางตะวันตกได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจหลายสิบคนที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

หลายคนที่มีชื่อติดอยู่ในบัญชีดำแสดงท่าทีเย้ยหยันมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว แต่บางคนก็รู้สึกคับแค้นใจมอสโกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียเตือนว่าความเคลื่อนไหวนี้รังแต่ก่อความเสียหายแก่ชาติตะวันตกเอง

“มีอะไรที่เราสามารถให้คำแนะนำสหายสหรัฐฯของเราได้นะหรือ ออกไปดูโลกภายนอกให้มากขึ้น ลองฝึกโยคะ ลดน้ำหนักด้วยการรับประทานอาหารให้ถูกหลัก หรือบางทีก็ดูรายการตลกทางทีวีบ้างก็ได้” เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์

คำพูดของเขามีออกมาหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยว่าวอชิงตันได้เพิ่มเติมองค์กรนาซา อยู่ในบัญชีองค์กรอเมริกาที่้ห้ามติดต่อกับเหล่าผู้แทนรัฐบาลรัสเซีย ความเคลื่อนไหวทางสัญลักษณ์ที่เพิ่มแรงกดดันต่อมอสโก

อย่างไรก็ตาม รยาบคอฟ บอกว่าการระงับสัญญาทวิภาคีดังกล่าวได้ก่อสถานการณ์ที่น่าขัน เพราะเป็นผลให้การประชุมระหว่างเหล่านักอุตุนิยมวิทยาของทั้งสองประเทศจำเป็นต้องถูกยกเลิกไป “แน่นอนว่า มันเป็นทางเลือกของอเมริกา เห็นชัดเลยว่าพวกเขายังคงยึดติดกับความเป็นผู้นำ และไม่ยอมรับว่าสถานการณ์ซึ่งวางโครงเรื่องโดยสหรัฐฯและพันธมิตรยุโรป นำพากองกำลังต่อต้านรัสเซียเข้าสู่อำนาจในยูเครน”

ประชามติที่จัดขึ้นในไครเมียเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีขึ้นตามหลังทหารมอสโกเข้าควบคุมแหลมที่มีชาวรัสเซียเป็นชนกลุ่มใหญ่ ได้ผลลัพธ์คือสนับสนุนกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครมลินอย่างท่วมท้น อย่างไรก็ตาม มันถูกประณามอย่างดุเดือดจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป

รัสเซีย ได้เข้าแทรกแซงไครเมีย หลังจากนายวิกตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครน ผู้ฝักใฝ่มอสโกถูกโค่นจากอำนาจ ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดระหว่างตำรวจและผู้ประท้วง ซึ่งออกมาชุมนุมต่อต้านการตัดสินใจของนายยานูโควิช ที่ยกเลิกข้อตกลงการค้าและความร่วมมือกับอียู แล้วหันไปกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียแทน

ในวันพฤหัสบดี (3) เช่นกัน ทางเครมลิน ก็เรียกร้องให้นาโต ชี้แจงถึงความเคลื่อนไหวในยุโรปตะวันออก หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ประกาศเสริมการป้องกันตนเองแก่ชาติสมาชิกตะวันออก ตามหลังรัสเซียเข้าควบคุมไครเมีย

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าการเพิ่มกำลังทหารอย่างถาวรใดๆ ของนาโตในยุโรปตะวันออก ถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างนาโตกับรัสเซียปี 1997 “เรามีคำถามถึงพันธมิตรทหารแอตแลนติกเหนือ เราไม่ใช่แค่ต้องการคำตอบ แต่คำตอบนั้นต้องมีพื้นฐานแห่งความเคารพต่อกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เราเคยเห็นพ้องต้องกัน”

พร้อมกันนั้นสำนักข่าวอาร์ไอเอ รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของนายอนาโตลี อันโตนอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าทางรัสเซียได้เรียกผู้แทนทางทหารระดับสูงประจำนาโต กลับมาเพื่อปรึกษาหารือแล้ว “เราไม่เห็นโอกาสของการเดินหน้าความร่วมมือทางทหารอย่างปกติกับนาโต เราตัดสินใจเรียกหัวหน้าผู้แทนทหารรัสเซียประจำนาโตกลับมายังมอสโก เพื่อปรึกษา”