เอเอฟพี – องค์การสหประชาชาติเผย ยอดผู้ลี้ภัยซีเรียที่อพยพหนีสงครามกลางเมืองไปยังเลบานอนพุ่งเกิน 1 ล้านคนแล้ว ขณะที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังมีไม่เพียงพอ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เปิดเผยว่า เวลานี้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมีจำนวนเทียบเท่า 1 ใน 4 ของประชากรเลบานอน ส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น และยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก
UNHCR เตือนว่าสถิติล่าสุดเป็น “พัฒนาการอันเลวร้าย ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยทรัพยากรที่ร่อยหรอลงทุกวัน ขณะที่เจ้าของบ้านอย่างเลบานอนก็ต้องแบกภาระหนักจนใกล้ถึงจุดที่ไม่อาจรับผู้ลี้ภัยได้อีกต่อไป”
UNHCR ชี้ว่า เลบานอนกลายเป็นประเทศที่มี “สัดส่วนผู้ลี้ภัยต่อหัวประชากรมากที่สุดในโลก” ไปเสียแล้ว
“ผู้ลี้ภัยที่มากมายถึง 1 ล้านคนย่อมเป็นภาระอย่างยิ่งสำหรับประเทศใดก็ตามที่ต้องรับไว้ และในกรณีของเลบานอนซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีปัญหาภายในอยู่แล้ว ผลกระทบจึงยิ่งรุนแรงเป็นพิเศษ” อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุในถ้อยแถลง
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอน ชี้ว่า สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีได้คร่าชีวิตพลเมืองซีเรียไปแล้วกว่า 150,000 คน ขณะที่ประชากรอีกราวครึ่งค่อนประเทศก็ต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเรือน
ปัจจุบันมีชาวซีเรียเกือบ 600,000 คน ลงทะเบียนขอลี้ภัยในจอร์แดน ส่วนอีกราว 670,000 คน ลี้ภัยอยู่ในตุรกี
กูเตอร์เรส แถลงว่า ความขัดแย้งในซีเรียส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเลบานอนทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ผู้ลี้ภัยซีเรียที่ทยอยข้ามพรมแดนไปไม่ขาดสายกลายเป็นภาระหนักต่อระบบสาธารณสุขและการศึกษา รวมไปถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างไฟฟ้า, ประปา และบริการด้านสุขอนามัยต่างๆ
“ความช่วยเหลือที่นานาชาติมอบให้หน่วยงานภาครัฐของเลบานอนแม้จะทยอยเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ” กูเตอร์เรส กล่าว พร้อมชี้ว่าโครงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยซีเรียในเลบานอนเพิ่งได้ทุนสนับสนุน “เพียงร้อยละ 13” ในขณะที่จำนวนผู้ลี้ภัยยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ครึ่งหนึ่งของผู้ลี้ภัยซีเรียเป็นเยาวชนตาดำๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนหนังสือ
“เด็กในวัยเรียนชาวซีเรียกว่า 400,000 คน ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย ซึ่งมากกว่าเด็กเลบานอนตามโรงเรียนรัฐบาลเสียอีก โรงเรียนเหล่านี้เปิดรับเด็กซีเรียเข้าไปศึกษาเล่าเรียนแล้วประมาณ 100,000 คน แต่ความสามารถในการรับนักเรียนเพิ่มก็ยังจำกัดมาก” UNHCR แถลง
เนื่องจากครอบครัวผู้ลี้ภัยซีเรียมีความเป็นอยู่ที่อัตคัดขัดสน เด็กๆ ส่วนใหญ่จึงต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงปากท้อง
“เด็กผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะแต่งงานเร็ว และยิ่งพวกเขาขาดการศึกษาเล่าเรียนนานเท่าใด โอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น” UNHCR ระบุ