เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย ยืนยันวันนี้(31)ว่า หลักฐานทุกชิ้นที่พบล้วนบ่งชี้ว่าเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ได้สูญหายไปกลางมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ที่ห่างไกล ซึ่งตรงกับที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ออกมาแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเครื่องบินได้ “ตก” ลงสู่ทะเลแล้ว
แม้จะย่างเข้าสัปดาห์ที่ 4 ที่นานาชาติได้ส่งทั้งเครื่องบินและเรือออกตามหาร่องรอยของเที่ยวบิน MH370 นอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่เครื่องบินดิ่งทะเลพร้อมกับผู้ผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต ทว่าล่าสุดก็ยังไม่พบวัตถุใดๆ ที่จะยืนยันถึงการตกของเครื่องบินลำนี้ได้
ญาติผู้โดยสารหลายคนรู้สึกโกรธแค้นกับคำแถลงของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งระบุว่าเครื่องบิน MH370 ได้ตกและสูญหายไปในทะเล โดยอ้างเพียงการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมอย่างละเอียดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แอบบ็อตต์ระบุว่าเขา “เห็นด้วย” กับข้อสรุปของผู้นำมาเลเซีย
“ข้อมูลที่เรารวบรวมได้ทั้งหมดบ่งชี้ว่าเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สได้สูญหายไปในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของมหาสมุทรอินเดียตอนใต้” แอบบ็อตต์แถลงต่อสื่อมวลชนที่ฐานทัพในเมืองเพิร์ท ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยการค้นหาเครื่องบิน MH370
“นั่นเป็นหลักฐานที่มากมายเหลือล้น และผมคิดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีสิทธิ์ที่จะสรุปเช่นนั้นได้ และเมื่อเราได้ข้อสรุปแล้วก็เป็นหน้าที่ของท่านที่จะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน”
ออสเตรเลียร่วมมือกับนานาชาติในการค้นหาโบอิ้ง 777-200 ที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม โดยล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ราว 100 คนจากหลากหลายประเทศที่นำเครื่องบินสอดแนมออกไปตระเวนค้นหากลางทะเล และอีกราว 1,000 คนที่เดินทางไปกับเรือค้นหา
“มันเป็นภารกิจที่ยากลำบากเป็นพิเศษ เพราะเราต้องค้นหาในน่านน้ำที่กว้างขว้างมาก ในขณะที่ข้อมูลมีน้อยเหลือเกิน” แอบบ็อตต์กล่าว
“บุคลากรผู้มีสมองชั้นเลิศของโลกได้อาสาเข้ามาช่วย และเราก็ระดมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีทั้งหมดมาร่วมในปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ หากมันเป็นปริศนาที่ไขได้ เราจะไขความจริงออกมาอย่างแน่นอน แต่ผมก็ไม่อยากประเมินความยากลำบากของภารกิจนี้ต่ำจนเกินไป”
ผู้นำออสเตรเลียปฏิเสธที่จะกำหนด “เส้นตาย” ในการค้นหา โดยชี้ว่า “เรายังสามารถค้นหาต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ระดับความเข้มข้นของปฏิบัติการค้นหามีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลดลง”
“เรายังติดค้างครอบครัวของผู้โดยสารที่สูญหาย เรายังติดค้างทุกคนที่ต้องโดยสารเครื่องบิน เรายังติดค้างรัฐบาลทุกประเทศที่มีพลเมืองอยู่บนเที่ยวบิน MH370 และเรายังติดค้างผู้คนทั่วโลกที่เฝ้าติดตามปริศนาการหายไปของเครื่องบินลำนี้มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว”
