“ตำรวจสากล” จวกกลับมาเลเซีย หลังถูกกล่าวหาฐานข้อมูลพาสปอร์ต “ใหญ่เกิน-เสียเวลาตรวจสอบ”

รอยเตอร์ – สำนักงานตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) มีถ้อยแถลงตอบโต้รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย ซึ่งอ้างว่าการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารกับระบบฐานข้อมูลของตำรวจสากลเป็นขั้นตอนที่ “ยุ่งยาก” และเสียเวลาเกินไป

อินเตอร์โพล แถลงวานนี้ (28) ว่า ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ขอใช้ฐานข้อมูลหนังสือเดินทางหายของอินเตอร์โพลเป็นจำนวนนับล้านๆ ครั้งในแต่ละปี ทว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียกลับ “ไม่เคย” ขอตรวจสอบพาสปอร์ตกับอินเตอร์โพลเลยแม้แต่ครั้งเดียวในปีนี้ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม

ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันพุธ (26) ว่าการตรวจสอบหนังสือเดินทางกับระบบฐานข้อมูลของอินเตอร์โพลจะทำให้ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง “ล่าช้า” เกินไป

ซาฮิด ชี้ว่า อินเตอร์โพลมีฐานข้อมูลหนังสือเดินทางหายอยู่ถึง 40.2 ล้านเล่ม ซึ่ง “ใหญ่โตเกินไป” และจะทำให้ระบบจัดการฐานข้อมูลของมาเลเซียรองรับไม่ไหว

“นอกจากนี้ การตรวจสอบหนังสือเดินทางกับฐานข้อมูลพาสปอร์ตหายของอินเทอร์โพลจะทำขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองล่าช้ามาก” เว็บไซต์ มาเลย์ เมล์ออนไลน์ อ้างคำกล่าวของรัฐมนตรี ซาฮิด

สำนักงานตำรวจสากลซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ออกมาชี้แจงว่า ฐานข้อมูลของอินเตอร์โพลใช้เวลาเพียง 0.2 วินาทีในการระบุว่าพาสปอร์ตที่นำมาตรวจสอบมีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลพาสปอร์ตหายหรือไม่ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประเทศใดร้องเรียนว่าฐานข้อมูลดังกล่าวทำงานล่าช้า

“ทางการมาเลเซียไม่ตรวจสอบฐานข้อมูลพาสปอร์ตของอินเตอร์โพล (SLTD) ก่อนปล่อยให้ผู้เดินทางเข้าประเทศหรือขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นจึงไม่ควรโทษว่าเป็นความบกพร่องทางเทคโนโลยีของอินเตอร์โพล หากจะโทษก็ต้องโทษการตัดสินใจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียเอง” ถ้อยแถลงจากอินเตอร์โพล ระบุ

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียปล่อยให้ชายชาวอิหร่าน 2 คนที่ถือหนังสือเดินทางออสเตรียและอิตาลีเดินขึ้นเครื่องบิน MH370 โดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หลายฝ่ายพุ่งประเด็นไปที่การก่อการร้าย หลังจากที่เครื่องบินเกิดสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าบุคคลทั้งสองไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชะตากรรมใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับ MH370