เอเอฟพี – ชาวแดนอาทิตย์อุทัยผู้หลงใหลเครื่องบินเตรียมตัวบอกลา โบอิ้ง 747 “จัมโบ้เจ็ท” ซึ่งจะออกเดินทางเที่ยวสุดท้ายในญี่ปุ่นก่อนถูกปลดระวางอย่างเป็นทางการในเดือนนี้
ชาวญี่ปุ่นที่จะเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดและผู้ที่คลั่งไคล้อากาศยาน จะร่วมเดินทางไปกับโบอิ้ง 747 ลำสุดท้ายของสายการบิน ออล นิปปอน แอร์เวย์ส จากเมืองนาฮา จังหวัดโอกินาวา ไปยังสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ในวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินสุดท้ายสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ที่จะถูกใช้งานโดยสายการบินสัญชาติญี่ปุ่น
เครื่องบินโดยสาร 2 ชั้น ความยาว 70 เมตร และกว้าง 60 เมตร ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 1970 โดยสารการบินเจแปนแอร์ไลน์ส ก่อนจะกลายเป็นอากาศยานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งเส้นทางในประเทศ และต่างประเทศ
หนังสือพิมพ์ไมนิจิชิมบุน รายงานว่า ในยุคหนึ่ง เจแปนแอร์ไลน์ส เคยมีฝูงบินโบอิ้ง 747 อยู่มากกว่า 120 ลำ ซึ่งแต่ละลำสามารถจุผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 500 คน
แม้จะเป็นเครื่องบินรุ่นที่ชาวญี่ปุ่นผูกพันมานาน แต่ โบอิ้ง 747 ก็มีประวัติเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การบินญี่ปุ่น และอาจเป็นอุบัติเหตุทางการบินต่อครั้งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็ว่าได้
ในปี 1985 โบอิ้ง 747 ของเจแปนแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 123 ซึ่งออกเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังเมืองโอซากา ประสบอุบัติเหตุตกห่างจากเมืองหลวงญี่ปุ่นประมาณ 120 กิโลเมตร ทำให้ผู้โดยสาร 524 คนบนเครื่องรอดชีวิตมาเพียง 4 คนเท่านั้น
ฝูงบินโบอิ้ง 747 ถูกทดแทนด้วยเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า โดยเฉพาะโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบา และเป็นเครื่องบินขนาดกลางรุ่นแรกที่สามารถใช้กับเที่ยวบินระยะไกลได้
ปัจจุบันยังมีสายการบินหลายประเทศทั่วโลกที่ให้บริการเที่ยวบินด้วยโบอิ้ง 747