เอเอฟพี - คณะกรรมการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) เรียกร้องวานนี้ (22 พ.ค.) ให้มีการตรวจสอบแบตเตอรี่ในเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ อีกครั้ง หลังพบเหตุขัดข้อง 2 กรณีที่มีสาเหตุจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของเครื่องบินรุ่นนี้ เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อเดือนมกราคม ปี 2013 ผู้ตรวจสอบด้านการบินนานาชาติได้สั่งให้สายการบินทั่วโลกระงับใช้ฝูงบินดรีมไลเนอร์เป็นเวลา 3 เดือน หลังพบปัญหาแบตเตอรี่ลิเธียมร้อนจัดจนเกิดเพลิงไหม้บนเครื่องบินเจแปนแอร์ไลน์ส ซึ่งจอดอยู่ที่สนามบินโลแกน เมืองบอสตัน ขณะที่ดรีมไลเนอร์ของสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ส ก็เกิดปัญหาคล้ายกันจนต้องลงจอดฉุกเฉิน
เอ็นทีเอสบีระบุว่า ขั้นตอนการตรวจสอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในปี 2006 นั้น “ไม่เพียงพอ” และขอให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) จัดทำกระบวนการตรวจสอบที่รุดกุมยิ่งขึ้น
คณะกรรมการได้เสนอแนะแนวทาง 5 ข้อ โดยเฉพาะการตรวจสอบการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในกรณีที่เกิด “ไฟฟ้าลัดวงจรภายใน” รวมถึงให้มีการแต่งตั้ง “คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ” มาร่วมตรวจสอบตั้งแต่ต้น ก่อนจะมีการอนุมัติให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
ด้าน โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า ขั้นตอนการตรวจสอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหลังเกิดเหตุไม่คาดฝันกับดรีมไลเนอร์ญี่ปุ่นทั้ง 2 ลำ “เป็นไปตามคำแนะนำที่ NTSB ประกาศในวันนี้ทุกประการ”
“ดังนั้น เราจึงมั่นใจในความปลอดภัย ตลอดจนกระบวนการแก้ปัญหาแบตเตอรี่ที่ โบอิ้ง ได้ดำเนินการ และผ่านการอนุมัติจาก เอฟเอเอ ไปเมื่อปีที่แล้ว”
“เนื่องจากมาตรฐานการรับรองเครื่องบินจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทุกวัน โบอิ้งจึงเต็มใจรับคำแนะนำ และพร้อมสนับสนุนการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่า มาตรฐานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้นสอดคล้องกับความก้าวหน้าดังกล่าว”
โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ได้ชื่อว่าเป็น “อากาศยานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยถูกออกแบบให้ประหยัดเชื้อเพลิง และสามารถจุผู้โดยสารได้ระหว่าง 210-330 คน
