เอเจนซีส์ - รัฐบาลจีนต้องการคำอธิบายจากสหรัฐฯ พร้อมทั้งต้องการให้หยุดโครงการสอดแนมหลังพบว่า “หัวเว่ย” บริษัทที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของจีนได้ตกเป็นเหยื่อโดนหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSAแอบสอดแนมระบบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เพื่อล้วงข้อมูลอย่างผิดกฏหมาย
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน หง เหล่ย ได้เปิดเผยในวันจันทร์(24) ว่า “จีนรู้สึกกังวลมาก”ต่อข่าวที่หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ได้แอบสอดแนมระบเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านโทรคมนาคมของจีน เช่น หัวเว่ย ซึ่งมีเป้าหมายการจารกรรมไปที่ รัฐมนตรีการค้าของจีน ธนาคารแห่งชาติ บริษัทด้านโทรคมนาคมต่างๆ และรวมไปถึงบุคคลระดับสูงของประเทศ
“จีนได้พบเรื่องร้องเรียนมากมายเกี่ยวข้องกับสหรัฐฯในการแอบจารกรรมข้อมูล ทางรัฐบาลจีนต้องการให้สหรัฐฯให้คำชี้แจงอย่างละเอียด และต้องการให้สหรัฐฯหยุดโครงการสอดแนมนี้เสีย” หง เหล่ยกล่าวย้ำอย่างหนักแน่น
โดยหงได้อ้างถึงการรายงานผ่านสื่อสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ และสื่อเยอรมัน Der Spiegel ที่รายงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดเผยว่า หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯได้ใช้โครงการสอดแนมแอบจารกรรมความลับสำคัญของลูกค้าของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการโทรคมนาคมของจีน และรวมไปถึงความลับของบริษัท อ้างอิงจากเอกสารลับของ NSA ที่ถูก เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน แฉผ่านสื่อ
ซึ่งปฎิกริยาของจีนครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางการเดินทางเยือนยุโรปของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่ได้เผชิญหน้ากับประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เมื่อวานนี้ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ (24)
และบังเอิญประจวบเหมาะกับในช่วงวันเสาร์(22)ที่ มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1ของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนจีนในขณะนี้ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวจีนในกรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้มีการเปิดกว้างเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลทางออนไลน์ พร้อมกับย้ำว่านี่เป็น “เสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์”
อย่างไรก็ตามทั้งรัฐบาลจีนและรัฐบาลสหรัฐฯต่างให้คำจำกัดความ “การเข้าถึงข้อมูล” โลกอินเตอร์เนตที่แตกต่างกันออกไป