รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาแถลงวันนี้ (17 มี.ค.) ว่ายังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า กลุ่มผู้แสวงหาที่พักพิงราว 200 คน ซึ่งตำรวจไทยสามารถช่วยเหลือออกมาได้ ระหว่างบุกทลายค่ายแก๊งค้ามนุษย์ ใน จ.สงขลา เป็นชาวอุยกูร์ จากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเกิดเหตุไม่สงบอยู่บ่อยครั้ง
แหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจไทยกล่าวกับรอยเตอร์ว่า คาดว่าคนกลุ่มนี้น่าจะเป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิม “อุยกูร์” ที่พูดภาษาเตอร์กิก ซึ่งส่วนใหญ่หลบหนีจากจีน เนื่องจากทนอยู่ประเทศที่จำกัดสิทธิทางวัฒนธรรม และทางศาสนาของพวกเขาไม่ได้
“จีน และไทย ไม่เคยปิดกั้นช่องทางในการร่วมมือกัน ควบคุมและปราบปรามอาชญากรรม และรักษาความมั่นคง” หง เล่ย โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงสรุปข่าวประจำวัน
“เนื่องจากในตอนนี้ เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์สัญชาติของคนกลุ่มนี้ ดังนั้นการด่วนสรุปในตอนนี้ (เนื่องจาก) เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล เพราะไม่มีมูลความจริง”
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับรายงานว่ามีการช่วยชีวิตชาวอุยกูร์ (ออกมาจากค่ายแก๊งค้ามนุษย์)
หง พูดเป็นนัยว่าคำกล่าวเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อพิสูจน์
“เราได้สังเกตเห็นว่า มีบางประเทศออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างไม่เหมาะสมทั้งที่ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างสูง” เขากล่าวโดยไม่ได้ระบุว่ากำลังหมายถึงประเทศใด
ผู้อพยพระลอกล่าสุดที่ได้รับความช่วยเหลืออกมาจากค่ายในจ.สงขลากลุ่มนี้ ได้ฉุดให้ยอดเหยื่อที่สามารถหนีรอดจากขบวนการค้ามนุษย์พุ่งทะลุ 800 ราย นับตั้งแต่ที่รอยเตอร์ได้เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งของค่ายผิดกฎหมายเหล่านี้ ในการสืบสวนเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม
การเข้ากวาดล้างจับกุมครั้งนี้ เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ยืนยันว่า ขบวนการลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายในภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นที่เล่าลือกันว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการค้าแรงงานเถื่อน อย่างชาวโรฮิงญาที่ล่องเรือมาจากพม่า กำลังใช้เครือข่ายซึ่งเป็นที่โจษจัน ขนผู้อพยพสัญชาติอื่นๆ คราวละมากๆ แม้ว่าตำรวจไทยจะยังดำเนินการกวาดล้างอย่างไม่หยุดหย่อนก็ตาม
ทั้งนี้ เหตุไม่สงบที่เกิดขึ้นในซินเจียงในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 100 ราย จุดชนวนให้ทางการจีนต้องดำเนินการปราบปรามขั้นรุนแรง
เมื่อปี 2009 ชาวอุยกูร์ 20 คนที่อพยพหนีเข้ากัมพูชาได้ถูกผลักดันกลับจีน แม้ว่าองค์การสหประชาชาติ และองค์กรรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนต่างๆ ได้ออกมาคัดค้าน พร้อมเน้นย้ำว่า พวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลานาน หากถูกส่งกลับ
นอกจากนี้ องค์การ “ฮิวแมน ไรต์ วอทช์” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์กก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาเลเซีย ที่ผลักดันชาวอุยกูร์ 6 คนกลับจีนไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
บัดนี้ ชาวอุยกูร์อย่างน้อย 100 คน ถูกคุมตัวไว้ที่ศูนย์กักกันผู้อพยพในกรุงเทพฯ ซึ่งพวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้อพยพกลุ่มเล็กๆ ทว่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ถูกจับกุมฐานลอบเข้าประเทศไทยผิดกฎหมาย ซึ่งดูเหมือนส่วนใหญ่จะเดินทางออกจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน แล้วลัดเลาะผ่านลาว
