รัฐบาลมาเลย์ “ปัดอีก” ยันไม่เคยอัญเชิญ “หมอผี” มาประกอบพิธีชี้เบาะแส “เครื่องบินโบอิ้ง” ที่หายไป

เอเอฟพี - มาเลเซียซึ่งถูกโจมตีอย่างหนัก หลังยังค้นหาเครื่องบินโดยสารที่หายไปนานเกือบสัปดาห์ไม่พบ วันนี้ (14 มี.ค.) ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยจ้างหมอผีมุสลิมชื่อดัง มาประกอบพิธีกรรมแปลกประหลาดเพื่อช่วยชี้ตำแหน่งของเที่ยวบิน MH370 แต่อย่างใด

นอกจากนี้ องค์กรเฝ้าระวังการกระทำผิดหลักศาสนา ในประเทศซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามแห่งนี้ยังระบุด้วยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (เคแอลไอเอ) เพื่อป้องกันไม่ให้มีการประกอบพิธีกรรมเลยเถิดไปมากกว่านี้

ในสัปดาห์นี้ อิบรอฮิม มัต ซิน ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นหมอรักษาโรคด้วยความเชื่อทางศาสนา ได้ประกอบพิธีกรรม ที่มีผู้ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอแล้วนำออกเผยแพร่ไปทั่ว จนเรียกเสียงหัวเราะเยาะและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้

เมื่อวันพุธ (12) อิบรอฮิม วัย 80 ปี ได้สั่งให้ผู้ช่วย 3 คนซึ่งสวมชุดสูทแบบนักธุรกิจนั่งลงบนพรม แล้วยกของต่างๆ เป็นต้นว่า มะพร้าวลูกใหญ่ไว้เหนือศีรษะ

คำแถลงของรัฐบาลระบุว่า “หลังจากมี ‘โบโมะห์’ หรือหมอผีมาปรากฏตัวที่เคแอลไอเอ เราจึงขอกล่าวเน้นย้ำว่า ทั้งรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ไม่มีบทบาท และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการมาปรากฏตัวของหมอผีที่สนามบิน”

หน่วยงานที่มีอำนาจรับผิดชอบด้านศาสนาในมาเลเซีย ได้ห้ามไม่ให้มีการประกอบพิธีกรรมแนวพ่อมดหมอผีในประเทศนี้ เพราะเป็นพฤติกรรม “ที่ขัดต่อคำสอนของศาสนาอิสลาม” แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากหันหน้าไปพึ่ง “โบโมะห์” หรือหมอผี เพื่อใช้วิธีการทางไสยศาสตร์ แก้ไขปัญหาส่วนตัว และรักษาอาการเจ็บป่วย

ทั้งนี้ เที่ยวบิน 370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต ได้หายสาบสูญไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8) และถึงแม้นานาชาติจะระดมกำลังออกค้นหา แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสเป็นชิ้นเป็นอันที่สามารถบ่งชี้ถึงชะตากรรมของอากาศยานลำนี้

นอกจากสิ่งที่กล่าวไปแล้ว เมื่อวันจันทร์ (10) ผู้ช่วยของอิบรอฮิมได้ชูอุปกรณ์จับปลาที่เป็นงานจักสานขึ้น ขณะที่เพ่งมองเครื่องมือชิ้นนี้ลอดผ่านไม้ไผ่สองลำ ในพิธีกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาเบาะแส ที่จะช่วยชี้ตำแหน่งเครื่องบินที่หายไป

สื่อมวลชนของมาเลเซียรายงานว่า ก่อนหน้านี้ อิบรอฮิม อ้างว่า “มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลมาเลเซีย” เชิญเขามาประกอบพิธี แต่ในเวลาต่อมา ก็ได้ถอนคำพูดพร้อมทั้งชี้แจงว่าเขาตัดสินใจมาเอง

ทางด้าน โฆษกหญิงขององค์กรเฝ้าระวังซึ่งรับผิดชอบในเรื่องการควบคุมแนวปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามได้ออกมายืนยันกับเอเอฟพีว่า ได้ตักเตือน (อิบรอฮิม) ไม่ให้ประกอบพิธีอย่างที่แล้วมา แต่ถ้าเขายังดื้อรั้นก็จะต้องได้รับบทลงโทษ

ทั้งนี้ คลิปในเว็บไซต์ยูทิวบ์ ซึ่งบันทึกภาพพิธีกรรมที่ใช้อุปกรณ์ดักจับปลามียอดผู้ชมมากกว่า 300,000 คนแล้ว

“เขาทำเกินไป ช่วยเห็นใจคนที่กำลังทุกข์ทรมาน (เพราะญาติพี่น้องที่สูญหายไป) บ้างได้ไหม” หนึ่งในบรรดาผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นติเตียนพิธีกรรมในวิดีโอคลิป ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ระบุ