เอเอฟพี - กองทัพซีเรียใช้การปล่อยให้อดตายเป็น “อาวุธสงคราม” ระหว่างเข้ายึดครองค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ในย่านยาร์มุก แถบชานกรุงดามัสกัสกล่าว องค์การนิรโทษกรรมระบุวันนี้ (10 มี.ค.)
องค์การรณรงค์เพื่อสิทธิแห่งนี้ระบุ ในรายงานว่าด้วยชะตากรรมของพลเรือนปาเลสไตน์และซีเรีย ในย่านยาร์มุกว่า นับตั้งแต่กองทัพซีเรียเข้าปิดล้อมค่ายแห่งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2013 และปิดเส้นทางขนส่งอาหารและยารักษาโรค ก็พบว่ามีผู้ลี้ภัยจบชีวิตไปแล้วเกือบ 200 คน
รายงานฉบับนี้ซึ่งมีชื่อว่า “Squeezing the life out of Yatmuk : War crimes against besieged civilians” ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะอดตายทั้งหมด 128 ราย
ฟิลิป ลูเธอร์ ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือระบุในคำแถลงว่า “ชีวิตที่ย่านยาร์มุกเริ่มตกอยู่ในสภาพที่เกินจะทนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพลเรือนที่สิ้นหวัง อดอยาก และตกอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ทรมานที่ไร้ทางหนี”
องค์การนิรโทษกรรมสากลแถลงว่า การปิดล้อมยาร์มุกคราวนี้นับเป็นครั้งเลวร้ายที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งอื่นๆ ที่กองกำลังติดอาวุธของระบอบปกครองซีเรีย หรือของกลุ่มกบฏ ใช้อาวุธเข้าปิดล้อมพื้นที่ต่างๆ จนส่งผลกระทบต่อประชาชนเรือนแสน
ทหารซีเรียได้เข้าโอบล้อมค่ายแห่งนี้ เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มกบฏ กับกลุ่มนักรบฝ่ายสนับสนุนระบอบปกครองดามัสกัส ในพื้นที่อันกว้างใหญ่แถบชานกรุงดามัสกัสแห่งนี้แทบไม่เว้นแต่ละวัน
UNRWA องค์การที่จัดตั้งขึ้นมาโดยสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ. 1949 เพื่อให้มาทำหน้าที่ดูแลผู้ลี้ภัยชาวอาหรับระบุว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นได้จุดชนวนให้ประชาชนหลายหมื่นคนในยาร์มุก ที่มีประชากรอยู่อาศัย 170,000 คน ขณะที่ยังมีชาวบ้านอีกราว 20,000 คนติดอยู่ในค่ายนี้ และต้องเผชิญกับความยากลำบากและความหิวโหย
นอกจากนี้ องค์การนิรโทษกรรมสากลยังได้กล่าวโทษว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรีย และบรรดาพันธมิตรได้ก่อเหตุโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นต้นว่าการใช้อาวุธหนักโจมตีทางอากาศเหนือบ้านเรือนหรือค่ายพักของพลเรือน
องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุด้วยว่า ประชาชนที่ยังคงอาศัยอยู่ในยาร์มุกอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์กำลังป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้บริโภคผักและผลไม้มานานหลายเดือน
“การที่มีครอบครัวจำนวนมากทุกข์ทรมานเพราะความหิวโหยจนต้องหันไปกินจับหมาแมว และการที่มีพลเรือนถูกซุ่มยิงขณะออกหาอาหาร กลายเป็นเหตุผวาที่เกิดขึ้นเป็นประจำในยาร์มุก” ลูเธอร์กล่าว
รายงานฉบับนี้ระบุว่า เด็กๆ และผู้สูงอายุคือกลุ่มที่เดือดร้อนมากที่สุด “มีเด็ก 18 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทารกรวมอยู่ด้วยเสียชีวิต โดยโรคแทรกซ้อนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตนั้นเกิดจากการที่ชาวบ้านบริโภคอาหารที่กินไม่ได้ หรือพืชมีพิษ และเนื้อสุนัข”
รายงานเปิดเผยว่า โรงพยาบาลต่างๆ กำลังขาดแคลนยาสามัญและเวชภัณฑ์พื้นฐาน ขณะที่ชาวบ้านบอกองค์การนิรโทษกรรมสากลว่า กลุ่มกบฏติดอาวุธได้เข้าปล้นสะดมเสบียง และขโมยของของจากรถพยาบาล
ยาร์มุก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นย่านที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และเป็นชุมทางค้าขายอันคึกคักจอแจนั้นต้องเผชิญความเสียหายขั้นรุนแรงจากเหตุปะทะ การระดมยิง และเหตุโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ มีผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ในซีเรียเกือบ 500,000 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในซีเรียที่ประทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 จนต้องพลัดถิ่นที่อยู่