“โนมูระ โฮลดิงส์” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเงินญี่ปุ่น แต่งตั้ง “ผู้หญิง” ขึ้นนั่งบริหาร

เอเอฟพี - “โนมูระ โฮลดิงส์” บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้แต่งตั้ง ชิเอะ ชิมโป (Chie Shimpo) วัย 48 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานของธนาคารโนมูระ ทรัส แอนด์ แบงกิง ( Nomura Trust and Banking) ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่นที่ผู้หญิงสามารถก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดในโลกการเงินการธนาคารที่ผู้ชายครอบครองมายาวนาน

ชิเอะ ชิมโป (Chie Shimpo) วัย 48 ปีจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งในเก้าอี้ประธานของธนาคาร Nomura Trust and Bankingในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซ อาเบะ ได้ร้องขอให้เปิดโอกาสให้มีผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในตำแหน่งบริหารของบริษัท

โดยในขณะนี้ในธนาคารยักษ์ใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่น ที่รวมไปถึง ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ธนาคารซูมิโตโมะ มิตซุย และธนาคารมิซูโอ ไฟแนนเชียล ไม่มีผู้บริหารระดับสูงเป็นสตรี อ้างจากการสำรวจของทาการญี่ปุ่น และในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีเพียงผู้หญิงคนเดียวนั่งอยู่ในบอร์ดบริหารที่มีสัดส่วนผู้ชายที่นั่งอยู่ถึง 8 คน

ในวันพุธ(5)โนมูระได้ประกาศการแต่งตั้งชิมโปที่เธอได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารธุรกิจบนโลกออนไลน์ว่า เพศของเธอไม่ใช่เป็นอุปสรรคในการเข้ารับตำแหน่งบริหาร “เมื่อดิฉันอยู่ที่ทำงาน ดิฉันไม่ค่อยได้คิดถึงสถานภาพทางเพศของตนเอง ดิฉันไม่เคยคิดว่าดิฉันจะต้องเสียเปรียบในความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานเพียงเพราะดิฉันเป็นผู้หญิง....(แต่)บางทีจะถูกต้องมากกว่าหากจะพูดว่าดิฉันถูกทำให้กลมกลืนเข้ากับโลกการเงินการธนาคารที่ผู้ชายครอบครองอยู่มายาวนาน” ชิมโปเผย

นอกจากนี้ชิมโปยังเสริมว่า “จากมุมมองของเพื่อนร่วมงานหญิงรุ่นน้อง....ดิฉันอาจจะไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดี แต่ดิฉันคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจทำให้พนักงานหญิงรุ่นน้องรู้สึกสบายใจ”

ชิมโปจบการศึกษาเอ็มบีเอมาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และจากมหาวิทยาลัยวาเซดะ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น โดยเธอได้เข้ามาร่วมงานกับโนมูระในปี 1989 และเธอสามารถก้าวขึ้นเป็นเจ้าหน้าระดับบริหารในปี 2012หลังจากทำงานในด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารหนี้

และพบว่าสัดส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นในแวดวงธุรกิจและการเมืองนั้นมีน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมชาติอื่นๆของโลก แต่อาเบะได้ประกาศที่ต้องการจะเปลี่ยนสัดส่วนแรงงานหญิงญี่ปุ่นในตลาดแรงงานให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเพื่อต้องการทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้หญิงญี่ปุ่นจะลาออกจากงานหลังจากมีบุตรคนแรก อ้างจากสถิติจากรัฐบาลญี่ปุ่น และเป็นการยากสำหรับพวกเธอที่จะกลับเข้ามาสู่การทำงานอีกครั้งเพราะทางเลือกที่น้อยในการหาสถานดูแลเด็กเดย์แคร์สำหรับลูกน้อย และชั่วโมงที่ยาวนานในการต้องทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลครอบครัว

และในสัปดาห์นี้เคอิโกะ ทาชิโร ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้อำนวยการของไดวา ซีคิวริตี ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้แต่งตั้งเป็นการภายในให้สตรีขึ้นสู่บอร์ดบริหาร และในปี 2013 ซาราห์ คาซาโนวา ผู้หญิงชาวแคนาดาได้กลายเป็นหัวข้อข่าวจากการที่เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารบริษัทแม็คโดนัลในญี่ปุ่น และเธอได้เป็นหนึ่งในกลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่ในตำแหน่งบริหารของบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น