เอเจนซีส์/รอยเตอร์/เอเอฟพี - เว็บไซต์ที่เก็บรักษาเงินสกุลดิจิตอลบิตคอย์น ที่รู้จักในนามธนาคารบิตคอย์น “เฟล็กซ์คอย์น” ในแคนาดาได้ประกาศปิดกิจการในวันอังคาร (4) หลังจากโดนแฮกเกอร์มือดีฉกเงินไปร่วม 896 บิตคอย์น หรือ 600,000 ดอลลาร์ ไม่นานหลังจากที่ MTGox บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลในญี่ปุ่นได้ประกาศขอล้มละลายในวันศุกร์ (28 กุมภาพันธ์) ก่อนหน้านั้น
“ในวันที่ 2 มีนาคม 2014 เว็บไซต์ของ “เฟล็กซ์คอย์น” ถูกโจมตีและโดนปล้นเงินบิตคอย์นที่อยู่ใน “bitcoin wallet” ไปได้ทั้งหมด 896 บิตคอย์น หรือ 600,000 ดอลลาร์ และเนื่องจาก “เฟล็กซ์คอย์น” ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะมาค้ำประกันความเสียหายนี้ได้ จึงขอทำการปิดตัวลงทันที” อ้างจากแถลงการณ์ของเฟล็กซ์คอย์นเมื่อวานนี้ (4)
โดยในขณะนี้เฟล็กซ์คอย์นที่มีฐานในแอลเบอร์ตา แคนาดา ยังคงทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาในการสืบสวนแกะร้อยคนร้าย และกล่าวว่าจะทำให้ที่เก็บเงินบิตคอย์นมีสถานะเป็น “ออฟไลน์” หรือที่เรียกว่า “cold storage” ต่อลูกค้า ซึ่ง “cold storage” นี้จะอยู่บนคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ทำการต่อเชื่อมกับระบบอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมทางออนไลน์
และก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ (28 กุมภาพันธ์) Mt.Gox บริษัทแลกเปลี่ยนเงินสกุลบิตคอย์นสัญชาติญี่ปุ่นต้องขอยื่นล้มละลาย และยอมรับว่าต้องสูญเงินไปร่วม 750,000 บิตคอย์น หรือเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ เหตุเพราะเกิดรูรั่วจากระบบความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์จนเป็นสาเหตุให้ถูกโจรกรรมได้
แต่ก่อนหน้านั้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ล่าสุด เฟล็กซ์คอย์นได้ออกมายืนยันว่าไม่มีผลกระทบใดต่อการปิดตัวลงของMt. Gox ว่า “ซึ่งการปิดตัวลงของ Mt.Gox เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เฟล็กซ์คอย์นไม่ได้รับผลกระทบอะไรแต่อย่างใด”
และในวันนี้ (5) รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่าจะออกมาตรการใหม่ภายในสัปดาห์นี้เพื่อควบคุมบิตคอย์น รวมทั้งอาจกำหนดให้ต้องมีการเสียภาษีในการทำธุรกรรม
ด้านสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า โตเกียวมองบิตคอย์นเหมือน “คอมโมดิตี” เช่น ทอง ซึ่งรายได้จากการซื้อขายนั้นจะต้องเสียภาษี และสกุลเงินดิจิตอลนี้ที่ถูกใช้เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมต่างๆระหว่างบริษัทจะต้องเสียภาษีด้วย แต่ตามกฎหมายญี่ปุ่น ธนาคารญี่ปุ่นถูกห้ามไม่ให้เปิดบัญชี หรือทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินบิตคอย์น และบริษัทค้าหลักทรัพย์ในญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้โบรกเกอร์ทำการซื้อขายบิตคอย์นในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ในวันอังคาร (4) ทาโร อาโซ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เปิดเผยเนื่องมาจากคดีของ Mt.Gox ว่า “เป็นการยากที่จะรู้ว่าปัญหาเกิดจากอาชญากรรม หรือเป็นความล้มเหลวของบริษัท”
