เอเจนซีส์/เอเอฟพี - “Mt GOX” เว็บแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) หยุดการทำธุรกรรมทุกประเภท การประกาศมีขึ้นไม่นานหลังจากที่ซีอีโอของบริษัทออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ธุรกิจกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นให้ความเห็นในวันนี้ว่าจะตรวจสอบปัญหาของ Mt GOX เพื่อดำเนินการขั้นต่อไปอย่างเหมาะสม
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความเห็นในวันนี้ (26) ว่าจะสืบสวนปัญหาบริษัท Mt GOX เว็บแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์ที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงโตเกียวได้ประกาศปิดดำเนินงานธุรกรรมการเงินไม่มีกำหนด หลังจากอ้างว่าถูกแฮกเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
การออกมาให้ความเห็นครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกที่มีออกมาจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยโยชิฮิเดะ ซูงะ หัวหน้าเลขาธิการคณะ ครม.ญี่ปุ่น กล่าวว่า “ผมเข้าใจว่ากระทรวงต่างๆ และหน่วยงานภาครัฐของญี่ปุ่นต่างรู้สึกกังวล ทั้งหน่วยงานด้านการเงิน ตำรวจ และกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กำลังตรวจสอบปัญหานี้อย่างครอบคลุมเพื่อความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และเมื่อเราได้ทราบถึงข้อเท็จจริงแล้ว ญี่ปุ่นจะดำเนินการต่อไปอย่างเหมาะสม”
คอลิน เบอร์เกอร์ นักค้าสกุลเงินบิตคอยน์อิสระ และเป็นอดีตวิศวกรซอฟต์แวร์ที่เดินทางมาจากกรุงลอนดอน และเพื่อนของเขา แอรอน ถือป้ายประท้วง Mt GOX เว็บแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีฐานอยู่ในญี่ปุ่นเพื่อทวงถามถึงเงินที่ได้สูญไปหลังจากบริษัทประกาศหยุดทำการธุรกรรมทุกชนิดไม่มีกำหนด โดยป้ายประท้วงของคนทั้งสองมีข้อความว่า “เงินของผมอยู่ไหน” และ “Mt GOX ยังสามารถจ่ายหนี้ได้ไหม?”
นอกจากนี้ยังมีลูกค้ารายอื่นได้ถือป้ายประท้วง และดูเหมือนจะมีคนไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย ได้ขึ้นป้ายประท้วงด้วยข้อความภาษาไทยหน้าที่ทำการบริษัท Mt GOX ว่า “ไม่มีบิตคอยน์ ไม่มีคู่”
“การเคลื่อนไหวล่าสุดของทางบริษัทในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิตอล ทางบอร์ดบริหารตัดสินใจที่จะหยุดการทำธุรกรรมทุกประเภทในชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อปกป้องเว็บไซต์และลูกค้าของบริษัท” แถลงการณ์ของ Mt GOX โพสต์ผ่านเว็บไซต์บริษัทที่ได้ว่างเปล่าในเวลาก่อนหน้านั้น ท่ามกลางความหวาดวิตกไปทั่วว่า Mt GOX อาจจะล้มละลาย
และแถลงการณ์ยังกล่าวต่อไปว่า “ทางบริษัทจะจับตาดูความเคลื่อนไหวทางสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทันที”
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ Mt GOX ได้ลบทวีตเตอร์ของบริษัทออกทั้งหมดจากแอกเคานท์ทวีตเตอร์ของบริษัทในวันจันทร์ (24) และประธานบริหารของบริษัท มาร์ก คาร์เพลเลส ได้ลาออกจากบอร์ดบิตคอยน์ฟาวเดชัน และในสัปดาห์ก่อนหน้า Mt GOX ได้ประกาศในการโยกย้ายบริษัทเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย
“เรากำลังอยู่ในระยะจุดเปลี่ยนของการทำธุรกิจ” คาร์เพลเลสได้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางอีเมลในวันอังคาร (18) จากคำถามที่ว่า Mt GOXนั้นได้ล้มละลายแล้วหรือไม่
ซึ่งที่ผ่านมา Mt GOX ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลของโลกที่ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ ทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ลูกค้าของบิตคอยน์ยังไม่สามารถถอนเงินบิตคอยน์ของพวกเขาได้ และแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐได้ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยทาง Mt GOX ได้อ้างปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “transaction malleability” ที่ทำให้ธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราของบริษัทสามารถถูกแฮกได้
นอกจากนี้ Mt GOX ได้กล่าวว่าบักในซอฟต์แวร์จะทำให้ใครก็ตามสามารถใช้ระบบของบริษัทเปลี่ยนรายละเอียดธุรกรรมได้ เป็นต้นว่า สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้แจ้งว่า “เงินบิตคอยน์” ยังไม่ได้ถูกโอนไปสู่แอ็กเคานต์ หรือที่เรียกว่า “bitcoin wallet” ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วจำนวนเงินได้ถูกโอนไปแล้ว
จากปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ Mt GOX สร้างความโกลาหลและโกรธเกรี้ยวในโลกผู้ใช้สกุลเงินบิตคอยน์ ซึ่งลูกค้าบางคนได้ระบายความรู้สึกผ่านโซเชียลมีเดียแสดงออกถึงความอัดอั้นของพวกเขาท่ามกลางข่าวลือกระฉ่อนว่า Mt GOX อาจแอบซ่อนปัญหาการเงินไว้ และมีเอกสารที่ยังไม่ได้รับการยืนยังแฉว่อนโลกอินเทอร์เน็ตอ้างว่า“Mt GOX ได้สูญเงินไป 744,408 บิตคอยน์ หรือเท่ากับ 350 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการฉ้อฉลทางธุรกรรม”