วิกฤตยูเครนทำหุ้นสหรัฐฯร่วง แต่ดันน้ำมัน-ทองคำพุ่งแรง

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (3) พุ่งแรง ส่วนวอลล์สตรีท ก็ลงหนัก จากความกังวลต่อวิกฤตการเมืองในยูเครน ขณะที่ความวิตกต่อสถานการณ์นี้ที่ส่อแววลุกลามบานปลาย กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก ก็ผลักให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดันทองคำดีดขึ้นกว่าร้อยละ 2

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.33 ปิดที่ 104.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

มีร์โต โซโกอู นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบันซัคเดน โบรเกอร์ในลอนดอน ให้ความเห็นว่า “ความไม่แน่นอนในยูเครน ทำให้ตลาดน้ำมันปิดในแดนบวก ท่ามกลางความกังวลในประด็นด้านปริมาณการผลิต รัสเซียคือหนึ่งในชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นความไม่แน่นอนทางการเมืองใดๆ จึงก่อความวิตกร้ายแรงต่ออุปทานพลังงานทั่วโลก”

ในวันจันทร์ (3) ยูเครน กล่าวหารัสเซีย ยังคงเสริมกำลังควบคุมจุดยุทธศาสตร์ในแหลมไครเมีย และเข้ายึดครองเขตปกครองตนเองของยูเครน ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือสำคัญของแดนหมีขาวแห่งนี้เอาไว้ในทางพฤตินัย ท่ามกลางการประณามจากเหล่าผู้นำโลก ในวิกฤตการเผชิญหน้าครั้งเลวร้ายที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่สงครามเย็น

ความตึงเครียดที่หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ ในยูเครนนี้เอง ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (3) ดิ่งลงแรงตามตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ทั่วยุโรป

ดาวโจนส์ ลดลง 154.83 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,166.88 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.76 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,845.69 จุด แนสแดก ลดลง 30.82 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,227.30 จุด

“ทั้งหมดทั้งมวลคือการหนีไปหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย” ไมเคิล เจมส์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ของเวดบุช ซีเคียวริตีกล่าว

ด้านราคาทองคำวานนี้ (3) พุ่งขึ้นมากกว่าร้อยละ 2 หลังวิกฤตที่ลุกลามในยูเครน ทำนักลงทุนผู้ตื่นตระหนก หันมาถือครองโลหะมีค่าสีเหลือง ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จนปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 28.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,350.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์