เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งเขตปกครองตนเองไครเมียเรียกร้องให้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เข้ามาช่วยคืนสันติภาพและความสงบเรียบร้อยแก่คาบสมุทรกลางทะเลดำแห่งนี้ ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าทางการเมืองครั้งใหญ่กับรัฐบาลกรุงเคียฟ
“ในฐานะที่ผมต้องรับผิดชอบชีวิตและสวัสดิภาพของพลเมืองที่นี่ ผมขอร้องให้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ช่วยคืนความสงบเรียบร้อยแก่ดินแดนไครเมียด้วย” เซอร์เกย์ อักสโยนอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯคนใหม่โดยรัฐสภาท้องถิ่นไครเมีย ให้สัมภาษณ์ ขณะที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติรัสเซียก็ได้นำบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ อักสโยนอฟ ไปเผยแพร่ด้วย
อักสโยนอฟ ซึ่งก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯไครเมียโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลรักษาการในกรุงเคียฟ ยังไม่ระบุชัดเจนว่าต้องการความช่วยเหลือรูปแบบใดจาก ปูติน
อักสโยนอฟ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกนายในไครเมียอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขาแล้วทั้งสิ้น
“ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งไครเมีย ผมขอสั่งให้กองกำลังความมั่นคงในสังกัดกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานความมั่นคง, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กรมสรรพากร และกองกำลังป้องกันชายแดน อยู่ภายใต้คำสั่งของผมโดยตรง”
“ผมขอให้ผู้บัญชาการทุกนายปฏิบัติตามคำสั่งของผมเท่านั้น ผู้ใดที่ไม่เห็นด้วยขอให้ลาออกจากราชการได้ทันที”
อักสโยนอฟ แสดงท่าทีแข็งกร้าวเพื่อตอบโต้การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจไครเมียคนใหม่โดยกรุงเคียฟ ซึ่งเขาชี้ว่าเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดการจลาจล
สถานการณ์บนคาบสมุทรไครเมียเวลานี้ถือว่าล่อแหลม หลังจากเมื่อวานนี้(28) มีกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธในเครื่องแบบทหารที่ปราศจากเครื่องยศ เข้าปิดล้อมสถานที่ราชการและสนามบินนานาชาติในเมืองซิมเฟโรโพล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไครเมีย
เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่า กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้คือกองกำลังจากรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามอสโกกำลังเริ่มแผนรุกรานไครเมียอย่างจริงจัง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่รัสเซียยืนยันว่า มอสโกจะไม่เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรี อักสโยนอฟ ซึ่งต้องการให้ประธานาธิบดี ปูติน เข้าไปมีบทบาทคืนความสงบเรียบร้อยแก่คาบสมุทรไครเมีย
“รัสเซียจะไม่เพิกเฉยต่อคำขอร้องครั้งนี้” สื่อกระแสหลักทุกสำนักในรัสเซียอ้างถ้อยแถลงจากแหล่งข่าวในรัฐบาลเครมลิน
รัสเซียมีผลประโยชน์และความสัมพันธ์ทั้งในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจกับยูเครน และมีฐานทัพแห่งหนึ่งอยู่ในไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่สหภาพโซเวียตได้ยกให้แก่สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครนในปี 1954