เครือข่ายสมัชชาปฏิรูป ยื่นหนังสือร้องนายกฯ ขอสร้างกลไกร่วมพัฒนาชาติ วางเป้าที่ความเป็นธรรม ขับเคลื่อนความมั่นคงอาหาร ทรัพยากรน้ำ หนุนเกิดเครือข่ายปฏิรูปสื่อกระแสหลัก ดำเนินงานตั้งแต่ตำบลถึงประเทศ ขอ รบ.หนุนร่าง กม.7 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.สิทธิชุมชน พ.ร.บ.ปราบโกงภาค ปชช.ฯลฯ เห็นตามมติสมัชชาปฏิรูป
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคีเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย ประมาณ 150 คน นำโดยนายณัฐพล เอกเสมอ ได้เดินทางประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ขอให้รัฐบาลสร้างกลไกที่ทุกภาคีร่วมกันปฏิรูปและพัฒนาประเทศไทยให้เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ ขอให้รัฐบาลระดมพลังภาคีทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหาร การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการและยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสื่อกระแสหลัก เปิดพื้นที่สาธารณะในการสื่อสาร และให้รัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนในระดับตำบล จังหวัดและประเทศ นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนผลักดันร่างกฎหมาย 7 ฉบับ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากร, พ.ร.บ.การสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาคประชาชน, พ.ร.บ.การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ เพื่อให้สามารถประกาศใช้ให้เป็นรูปธรรม และให้สนับสนุนมติสมัชชาปฏิรูปครั้งที่ 1-3 ให้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง
โดยมี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขธิการนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนรับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่าจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคีเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย ประมาณ 150 คน นำโดยนายณัฐพล เอกเสมอ ได้เดินทางประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ขอให้รัฐบาลสร้างกลไกที่ทุกภาคีร่วมกันปฏิรูปและพัฒนาประเทศไทยให้เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ ขอให้รัฐบาลระดมพลังภาคีทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหาร การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการและยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสื่อกระแสหลัก เปิดพื้นที่สาธารณะในการสื่อสาร และให้รัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนในระดับตำบล จังหวัดและประเทศ นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนผลักดันร่างกฎหมาย 7 ฉบับ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากร, พ.ร.บ.การสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาคประชาชน, พ.ร.บ.การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ เพื่อให้สามารถประกาศใช้ให้เป็นรูปธรรม และให้สนับสนุนมติสมัชชาปฏิรูปครั้งที่ 1-3 ให้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง
โดยมี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขธิการนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนรับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่าจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป