เอเอฟพี – จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสืบสวนหาตัวคนผิดในเหตุโจมตีทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ พร้อมประณามการยิงระเบิดเอ็ม 79 ที่หน้าบิ๊กซีราชดำริและเหตโจมตีผู้ชุมนุม กปปส. ที่ จ.ตราด จนมีเด็กเสียชีวิตรวม 4 รายว่า เป็นสิ่งที่ “น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง”
ถ้อยแถลงของ เคร์รี เมื่อวานนี้(28) ระบุว่า “ในฐานะพันธมิตรและเพื่อนสนิทของชาวไทย สหรัฐฯรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ไทยกำลังเผชิญปัญหาการเมืองอันทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไปเป็นจำนวนมาก”
“ผมขอให้ทางการไทยเร่งสืบสวนเหตุโจมตีเหล่านี้โดยเร็ว และนำตัวคนผิดมารับโทษ... การใช้ความรุนแรงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการแก้ไขความเห็นต่างทางการเมือง”
คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ได้ประกาศวานนี้(28)ว่า จะถอนตัวออกจากสถานที่ชุมนุมหลายแห่งที่ปักหลักอยู่นานถึง 4 เดือนในปฏิบัติการ “ชัตดาวน์กรุงเทพ”
ท่าทีของฝ่ายผู้ประท้วงมีขึ้น หลังไม่กี่วันมานี้สถานที่ชุมนุมหลายแห่งของ กปปส. และแนวร่วมถูกลอบโจมตีด้วยระเบิดและปืน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
ความรุนแรงที่เกี่ยวโยงกับเหตุชุมนุมทางการเมืองคร่าชีวิตพลเมืองไทยไปแล้ว 23 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ รวมถึงเด็ก 4 คนที่เสียชีวิตจากเหตุปาระเบิดและกราดยิงผู้ชุมนุม กปปส. ทั้งที่กรุงเทพมหานครและ จ. ตราด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว
“ในฐานะที่ผมเป็นพ่อและเป็นปู่คนหนึ่ง การตายของเด็กๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง และควรเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง อดทนอดกลั้น และเคารพกฎหมายกันมากขึ้น” เคร์รี กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังยืนยันว่า วอชิงตันไม่เลือกเข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ของคนไทยเองที่จะต้องแก้ไขความเห็นต่างทางการเมือง
อย่างไรก็ดี สิ่งที่สหรัฐฯ เป็นห่วงคือ “การใช้กลยุทธ์ที่บั่นทอนค่านิยมและกระบวนการประชาธิปไตย ปิดทางประนีประนอม และทำให้สถานการณ์การเมืองตึงเครียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ”
“ทุกฝ่ายควรมีเจตนารมณ์ที่จะพูดคุยเพื่อหามุมมองที่ตรงกัน แก้ไขความต่าง และหาหนทางให้การเมืองไทยสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างสันติและเป็นประชาธิปไตย”