xs
xsm
sm
md
lg

ช็อก! ผลการศึกษาชี้ เกาะ 1,500 แห่งอินโดนีเซียจะ “จมทะเล” ในปี 2050 ส่วน “จาการ์ตา” จะกลายสภาพเป็นทะเลสาบครึ่งเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ผลการศึกษาล่าสุดที่มีการเผยแพร่วันพุธ (26) พบข้อมูลอันน่าสะพรึงที่ระบุว่า ภายในปี ค.ศ. 2050 หมู่เกาะราว 1,500 แห่งจากทั้งหมดกว่า 17,000 แห่งของอินโดนีเซียจะหายไปจากแผนที่โลก เพราะถูกระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นท่วมจนมิด ขณะที่ “กรุงจาการ์ตา” เมืองหลวงของประเทศ จะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปกว่า “ครึ่งเมือง”

ผลการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) และ “เมเปิลครอฟท์” บริษัทจัดทำแผนที่ภูมิอากาศชื่อดังจากสหราชอาณาจักร พบว่า ภายในปี 2050 อินโดนีเซียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะต้องสูญเสียพื้นที่เกาะแก่งต่างๆ รวมแล้วกว่า 1,500 แห่งเพราะระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อินโดนีเซียซึ่งมีจำนวนเกาะทั้งหมดกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศจะกลายเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า นอกจากเกาะจำนวนกว่า 1,500 แห่งของอินโดนีเซีย จะจมหายไปในทะเลภายในปี 2050 แล้ว กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 26.7 ล้านคน ก็อาจมีพื้นที่ที่ต้องจมหายไปใต้ทะเลมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือของเมืองที่จะกลายสภาพเป็น “ทะเลสาบน้ำเค็ม”

นอกจากนั้น ผลการศึกษายังพบว่า ภายในปี 2030 หรือก่อนหน้านั้น 20 ปี ท่าอากาศยานนานาชาติ “ซูการ์โน-ฮัตตา” บนเกาะชวา ซึ่งต้องรองรับผู้โดยสารจากทั่วโลกมากกว่าปีละ 57.8 ล้านคน และถือเป็นสนามบินที่มีการจราจรทางอากาศคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ก็จะต้องจมอยู่ใต้ทะเลเช่นเดียวกัน หากระดับน้ำทะเลยังคงเพิ่มสูงขึ้นในอัตราปัจจุบัน

ด้านอัญชา ศรีนิวาสันต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ประจำธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ระบุว่า อินโดนีเซียซึ่งมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ห่างจากชายฝั่งภายในรัศมี “ไม่เกิน 3 กิโลเมตร” มากถึง 42 ล้านคน กำลังตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามใหญ่หลวงจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่อินโดนีเซียอาจต้องเผชิญกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกว่า “90 เซนติเมตร” ภายในช่วงสิ้นศตวรรษนี้

ผู้เชี่ยวชาญของเอดีบียังเตือนว่า หากช่วงเวลาดังกล่าวมาถึงอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีชายฝั่งยาวที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ถึงกว่า 80,000 กิโลเมตร ก็จะต้องเผชิญกับหายนะร้ายแรงที่ก่อให้เกิดความสูญเสีย มากกว่าเมื่อครั้งที่แดนอิเหนาต้องเผชิญกับพิบัติภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 280,000 รายใน 6 ประเทศ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงประมงและกิจการทางทะเลของอินโดนีเซียระบุว่า ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อินโดนีเซียต้องสูญเสียเกาะที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำทะเลไปแล้วอย่างน้อย 24 เกาะ ระหว่างปี 2005-2007


ภายในปี ค.ศ. 2050  หมู่เกาะราว 1,500 แห่งจากทั้งหมดกว่า 17,000  แห่งของอินโดนีเซียจะหายไปจากแผนที่โลก

ภายในปี 2030 ท่าอากาศยานนานาชาติ “ซูการ์โน-ฮัตตา” บนเกาะชวา  ซึ่งต้องรองรับผู้โดยสารจากทั่วโลกมากกว่าปีละ 57.8  ล้านคน    และถือเป็นสนามบินที่มีการจราจรทางอากาศคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ก็จะต้องจมอยู่ใต้ทะเลเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น