เอเอฟพี – อัยการสหรัฐฯ เตรียมยื่นคำร้องต่อทางการเม็กซิโกเพื่อขอส่งตัว โฮอากิน “เอล ชาโป” กุซมัน เจ้าพ่อยาเสพติดเบอร์ 1 ของแดนจังโก้ มาดำเนินคดีในสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่อเมริกันแถลงเมื่อวานนี้ (23)
กุซมัน ถูกกองกำลังผสมระหว่างเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (ดีอีเอ) และกำลังนาวิกโยธินของเม็กซิโก จับกุมได้เมื่อวันเสาร์ (22) หลังหลบหนีอาญาแผ่นดินมานานนับสิบปี ซึ่งถือเป็นการยุติอิทธิพลของชายผู้ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมยาเสพติดที่คร่าชีวิตชาวเม็กซิโกไปกว่า 77,000 คนในช่วง 7 ปีมานี้
กุซมัน ยังได้ชื่อว่าเป็น “ศัตรูสาธารณะหมายเลขหนึ่ง” ของนครชิคาโก เนื่องจากเป็นซัปพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดที่ส่งยาเสพติดเข้าไปขายในเมืองดังกล่าว
สหรัฐฯ เคยตั้งรางวัลนำจับพ่อค้ายาเสพติดรายนี้ไว้ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังมีการยื่นฟ้องคดีอาชญากรรมตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งตั้งแต่นิวยอร์กเรื่อยไปจนถึงซานดิเอโก
“เรากำลังเตรียมยื่นคำร้องเพื่อขอส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน” โรเบิร์ต นาร์โดซา โฆษกสำนักงานอัยการสหรัฐฯประจำเขตนิวยอร์กตะวันออก ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
แม้ว่า กุซมัน จะถูกทางการเม็กซิโกตั้งข้อหาอาชญากรรมหลายกระทงจากการที่เขาเป็นผู้นำแก๊งยาเสพติด “ซินาลัว” แต่ นาร์โดซา ชี้ว่า เขาก็ถูกยื่นฟ้องอย่างเป็นทางการในหลายเขตของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
“เรายังไม่ทราบแน่นอนว่าจะดำเนินการอย่างไรในเวลานี้” โฆษกผู้นี้ยอมรับ และไม่ยืนยันว่าจะมีการยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้เมื่อใด
ไมเคิล แม็คโคล ประธานคณะกรรมการความมั่นคงมาตุภูมิแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สนับสนุนการขอส่งตัว กุซมัน มาดำเนินคดีในอเมริกา โดยชี้ว่า “ปลาตัวใหญ่ที่สุด” ตัวนี้อาจเล็ดรอดออกจากตาข่ายไปได้อีก เหมือนเช่นที่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2001
ส.ส.รีพับลิกันผู้นี้กล่าวในรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ด้วยว่า “โดยปกติ กุซมัน ควรจะถูกดำเนินคดีในเม็กซิโกเสียก่อน... อย่างไรก็ตาม เขามีประวัติก่ออาชญากรรมในสหรัฐฯ และเคยหลบหนีออกจากเรือนจำเม็กซิโกได้มาแล้วเมื่อปี 2001”
“ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากให้ทางการเม็กซิโกพิจารณาส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมายังสหรัฐฯ ซึ่งเขาจะถูกควบคุมตัวในเรือนจำความมั่นคงสูงสุดและไม่มีโอกาสที่จะหนีได้ และจะถูกนำตัวสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษจำคุกตลอดชีวิต”
กุซมัน ซึ่งมีฉายาว่า “เจ้าเตี้ย” เริ่มมีชื่อเสียงกระหึ่มในวงการอาชญากร หลังหนีออกจากเรือนจำความมั่นคงสูงสุดเม็กซิโกไปได้เมื่อเดือนมกราคมปี 2001 โดยซ่อนตัวอยู่ในรถเข็นลำเลียงเสื้อผ้าซักรีด
เมื่อพิธีกรถามถึงโอกาสที่สหรัฐฯได้จะได้ตัวพ่อค้ายาเสพติดผู้นี้มารับโทษ แม็คโคล ก็ตอบว่า “ขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศว่าจะกดดันรัฐบาลเม็กซิโกได้มากแค่ไหน”
