เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผย เหตุรุนแรงทางศาสนาในสาธารณรัฐแอฟริกากลางที่เกิดการเข่นฆ่ากันเป็นรายวันระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมในประเทศ ส่งผลให้มีผู้อพยพทะลักเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคเมอรูนแล้วเกือบ 20,000 คนนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์
แดน แม็คนอร์ตัน โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ออกมาเปิดเผยที่นครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุว่า การเข่นฆ่ากันรายวันที่กระทำโดยกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” และกองกำลังติดอาวุธของชาวคริสต์ในสาธารณรัฐแอฟริกากลางส่งผลให้มีผู้อพยพหนีตายเข้ามาทางภาคตะวันออกของแคเมอรูนแล้ว 19,565 คน นับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้อพยพจากแอฟริกากลางที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในแคเมอรูนได้เพิ่มจำนวนเป็นอย่างน้อย 35,142 คน นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ เผยว่าจำนวนผู้อพยพจากแอฟริกากลางที่หลั่งไหลเข้ามามากขึ้นทุกขณะ กำลังสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับรัฐบาลของแคเมอรูนในการดูแลผู้อพยพเหล่านี้โดยเฉพาะในการจัดหาที่พักและอาหาร และจำเป็นอย่างยิ่งที่นานาชาติต้องเร่งจัดหาความช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย
ก่อนหน้านี้ บัน คี-มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชาวเกาหลีใต้ ออกโรงในวันพฤหัสบดี (20) เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศเร่งส่งกำลังทหารและตำรวจเข้ามาประจำการเพิ่มเติมอีก 3,000 คน ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสที่กำลังประสบกับภาวะไร้ขื่อแปจากการสังหารหมู่แก้แค้นกันไปมาเป็นรายวัน ระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมในประเทศ
ข้อเรียกร้องล่าสุดของเลขาธิการยูเอ็นมีขึ้นหลังจากที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงทางศาสนา ระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมในสาธารณรัฐแอฟริกากลางได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,000 คนแล้ว ขณะที่อีกกว่า 700,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเพื่อหนีตาย
สถานการณ์ในแอฟริกากลางยังคงไม่ดีขึ้น แม้รัฐบาลฝรั่งเศสตัดสินใจส่งทหารของตนจำนวน 2,000 นาย เข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยในแอฟริกากลาง เช่นเดียวกับองค์การเอกภาพแอฟริกัน (เอยู) ที่ส่งทหารของตนเข้ามาในอดีตอาณานิคมฝรั่งเศสแห่งนี้กว่า 6,000 นาย ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศส่งกองกำลังของตนจำนวน 1,000 คนเข้ามายังประเทศนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลางซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชาวคริสต์ เริ่มเข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากที่กลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกา ก่อเหตุยึดอำนาจ จากรัฐบาลของประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โบซิเซ โดยที่เหล่านักรบมุสลิมของพวกเซเลกาได้ก่อเหตุสังหารหมู่ ข่มขืน และปล้นในชุมชนของชาวคริสต์ทั่วประเทศ ทำให้ชาวคริสต์รวมตัวกันจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตัวเองเพื่อแก้แค้น โดยมีชาวมุสลิมเป็นเป้าหมาย ซึ่งเป็นที่มาของการเข่นฆ่ากันรายวันของผู้นับถือศาสนาทั้งสองจนถึงขณะนี้
