เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-บัน กี-มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ออกโรงเตือนในวันอังคาร (11) ระบุ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง อาจแตกแยกกลายเป็น 2 ประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกแสดงบทบาทให้มากขึ้นเพื่อหยุดยั้งความโหดร้ายทารุณที่เกิดขึ้นในอดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งนี้
“ความรุนแรงทางศาสนาที่เกิดขึ้น กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าทางภูมิศาสตร์ของประเทศนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว สาธารณรัฐแอฟริกากลางกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรงที่จะแตกแยกออกเป็น 2 ประเทศ และจนถึงขณะนี้นานาชาติก็ยังมิได้แสดงบทบาทที่เพียงพอ เพื่อยุติการเข่นฆ่าระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมในประเทศนี้” เลขาธิการยูเอ็นชาวเกาหลีใต้กล่าว
ท่าทีล่าสุดของเลขาธิการยูเอ็น มีขึ้นหลังจากอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศสได้กลายสภาพเป็นดินแดนที่ไร้ขื่อแป นับตั้งแต่ที่กลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” ทำการโค่นอำนาจรัฐบาลแอฟริกากลางเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และการก้าวขึ้นสู่อำนาจของพวกกบฏมุสลิมในประเทศที่ชนส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์นี่เอง ที่เป็นชนวนให้เกิดการเข่นฆ่าสังหารหมู่กันไปมาระหว่างชาวคริสต์และมุสลิมเป็นรายวัน จนเกิดคลื่นผู้อพยพนับล้านคน
โดยกองกำลังรักษาสันติภาพจากชาติสมาชิกองค์การเอกภาพแอฟริกัน (เอยู)จำนวน 5,400 นายและทหารฝรั่งเศสอีก 1,600 นายที่ถูกส่งเข้ามาก็ล้มเหลวในการควบคุมสถานการณ์ ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ให้คำมั่นจะส่งทหารอีกราว 500 นายเข้ามาเสริมกำลังในกรุงบังกี เมืองหลวงของแอฟริกากลางภายในเดือนมีนาคมนี้
ด้านเอ็ดเวิร์ด มูเลต์ ผู้ช่วยเลขาธิการยูเอ็นด้านปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขามีแผนจะเดินทางไปยังแอฟริกากลางภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกับผู้แทนขององค์การเอกภาพแอฟริกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ในการโอนย้ายภารกิจของทหารชาติสมาชิกเอยูเข้ากับกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็น
ขณะที่เมื่อวันอังคาร (11) ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองกำลังนานาชาติเพื่อยุติความรุนแรงจากบรรดากลุ่มติดอาวุธชาวคริสต์และมุสลิมในแอฟริกากลางในทันที โดยยืนยันกองกำลังนานาชาติอาจจำเป็นต้องใช้กำลังจัดการกับสถานการณ์หากมีความจำเป็น
