เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาในเช้าวันนี้ (21) จะพบกับผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งทิเบตที่อยู่ในระหว่างการลี้ภัย “องค์ทะไลลามะ” เพื่อแสดงถึงความห่วงใยการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน ในขณะที่รัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณเตือนมายังทำเนียบขาวให้ยกเลิกกำหนดการพบปะครั้งนี้ อ้างหากยังจัดต่อจะกระทบกระเทือนอย่างมากต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้ง 2 ชาติ
ในหมายกำหนดการช่วงเช้าวันศุกร์ (21) ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา จะเป็นที่สนใจอย่างมากสำหรับจีน เนื่องจากผู้นำสหรัฐฯจะพบกับ “องค์ทะไลลามะ” ผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งทิเบตที่อยู่ในระหว่างการลี้ภัย ซึ่งทางการจีนมององค์ทะไลลามะเหมือนกับ “ผู้นำการแบ่งแยกดินแดนหัวรุนแรง” เพราะท่านต้องการให้ทิเบตมีอำนาจปกครองตนเอง
และจีนยังได้เตือนให้สหรัฐฯยกเลิกแผนการเข้าพบครั้งนี้ โดยกล่าวว่าอาจส่งผลขั้นร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ชาติได้
“การที่สหรัฐฯได้มีกำหนดการให้ผู้นำของประเทศพบกับองค์ทะไลลามะนั้น ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง และยังถือเป็นการละเมิดแนวปฎิบัติความสัมพันธ์ระดับประเทศ” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ฮัว ชุนยิง กล่าวผ่านแถลงการณ์
“ยุทธศาสตร์ปักหมุดเอเชีย” ของโอบามาถูกมองว่าเป็นนโยบายเพื่อที่จะเพิ่มแรงกดดันให้กับจีน
ซึ่งในขณะที่สหรัฐฯยอมรับว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีน และไม่ได้สนับสนุนให้ชาวทิเบตประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน แต่แท้ที่จริงแล้วสหรัฐฯสนับสนุนแนวคิดขององค์ทะไลลามะในการที่ต้องการให้ทิเบตมีอำนาจปกครองตนเองมากขึ้น เคธลิน เฮย์เดน โฆษกหญิงประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเผย
“สหรัฐฯรู้สึกกังวลต่อความตึงเครียดที่ก่อตัวสูงขึ้นและสภาวะด้านสิทธิมนุษยชนที่ถูกกัดกร่อนลงไปในทิเบตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจีน” เฮย์เดนกล่าวต่อ
และเฮเดนยังแถลงอีกว่า “สหรัฐฯจะยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลจีนได้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับองค์ทะไลลามะ หรือตัวแทนของท่านอย่างไม่มีเงื่อนไขเพื่อลดความตึงเครียด”
นอกจากนี้สหรัฐฯยังมีความกังวลถึงการขัดแย้งกรณีดินแดนพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่นเหนือหมู่เกาะเซนกากุ หรือเกาะเตียวหยูในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทางวอชิงตันประกาศจะเพิกเฉยต่อเขต ADZ ที่ปักกิ่งได้ประกาศไว้ทั่วบริเวณนั้น