เอเอฟพี - เรือยามฝั่งจีนปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในน่านน้ำเขตพิพาทที่ญี่ปุ่นดูแลอยู่ในวันศุกร์(26) หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ที่ญี่ปุ่นประกาศจะสร้างกองเรือให้เหมือนกับกองเรือของสหรัฐฯเพื่อปกป้องเกาะเซนกากุ หรือเกาะเตียวหยูในภาษาจีน และหลังจากจีนสั่งปฎิรูปหน่วยงานยามฝั่งจีน
ถึงแม้ว่าเรือของรัฐบาลจีนนั้นจะเข้าๆออกๆ น่านน้ำแถบนี้นับครั้งไม่ถ้วนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา แต่นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เรือจีนบุกเข้าเขตน่านน้ำที่ญี่ปุ่นดูแล นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ที่ทางรัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศรวมเรือทางการจากหลายสังกัดให้ขึ้นตรงกับหน่วยยามฝั่งของจีนเท่านั้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ ทางนัสังเกตุการณให้ความเห็นว่า หมายถึงการเพิ่มกำลังพลมากขึ้น
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยามฝั่งญี่ปุ่นเปิดเผยว่า “เราประกาศให้เรือยามฝั่งจีนออกจากน่านน้ำเขตเรา”
และเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเปิดเผยต่อไปว่า ในเวลา 1.30น. ในวันศุกร์ 26ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น เรือยามฝั่งจีน 4 ลำได้แล่นกลับออกไปหลังจากได้ประจัญหน้ากับเรือยามฝั่งญี่ปุ่นที่แล่นอยู่ในระยะ 12 ไมล์ทะเล โดยประมาณเรือยามฝั่งจีนได้แล่นเข้ามาอยู่ในน่านน้ำของญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนที่จะกลับออกไป
ในต้นสัปดาห์นี้ สื่อจีนได้รายงานถึงการปฎิรูปหน่วยงานยามฝั่งของจีน โดยรวมเรือตรวจการเข้ากับหน่วยยามฝั่งซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจีน ซึ่งหน่วยงานยามฝั่งจีนที่ได้รับการปฎิรูปนี้จะบังคับใช้กฎหมายการจับสัตว์น้ำและตรวจจับการลักลอบสินค้า ที่แตกต่างจากหน่วยงานยามฝั่งญี่ปุ่นที่อยู่ในสังกัดของพลเรือนที่มีเงินสนับสนุนอย่างไม่จำกัดโดยฝูงเรือยามฝั่งของญี่ปุ่นนั้นติดอาวุธพร้อมและเจ้าหน้าที่ยามฝั่งประจำเรือบางคนเชื่อว่ามีการพกพาอาวุธปืน
ทางนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาของไต้หวัน ให้ความเห็นว่า จากการยุบรวมหน่วยงานการตรวจตราทางทะเลเข้ากับหน่วยยามฝั่ง เป็นผลให้จะมีเรือติกอาวุธเพิ่มขึ้นในน่านน้ำแถบนี้ อาร์เธอร์ ดิง จาก มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงชี แห่งไต้หวัน เผยกับเอเอฟพีว่า กองเรือของจีนดูเหมือนจะมา “ลาดตระเวนถี่ขึ้นและแสดงความก้าวร้าวมากขึ้น”
“ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเรือยามฝั่งมีอำนาจตามกฏหมายให้ติดอาวุธเบาได้ดังนั้นเรือนี้จึงถือว่าสามารถบังคับใช้กฏหมายได้” ดิงกล่าว
อย่างไรก็ตามนักสังเกตการณ์ต่างออกมาเตือนว่าหมู่เกาะเซนกากุนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างจีนและญี่ปุ่น
