เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เกิดการปะทะรอบใหม่ในเช้าวันนี้ (20) ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 28 ราย ซึ่งความรุนแรงล่าสุดนี้ได้ฉีกสัญญาสงบศึกระหว่างประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช และผู้นำฝ่ายค้าน ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศในสหภาพยุโรปได้ยกเลิกหารือกับยานูโควิช เนื่องจากห่วงด้านความปลอดภัย และรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ชาติที่ได้บินมาถึงยูเครนก่อนหน้านี้ได้บินออกนอกประเทศทันทีโดยไม่พบกับยานูโควิช และได้มีการอพยพเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกจากตึกที่ทำการรัฐบาลใกล้กับจตุรัสเอกราช ด้านนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีตรี อานาตอลเยวิช เมดเวเดฟ เตือนยูเครนให้ใช้อำนาจปราบปรามเพื่อรักษาความสงบ อย่าทำตัวเป็นแค่พรมเช็ดเท้าของประชาชน
การปะทะรอบใหม่ล่าสุดในเช้าวันนี้ (20) ทีทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 28 ราย เกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ประท้วงม็อบยูเครนได้ใช้ระเบิดเพลิง และก้อนหินไปที่แผงกลุ่มตำรวจปราบจลาจลในจตุรัสเอกราช กลางกรุงเคียฟ ซึ่งเป้าหมายการปะทะของกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อผลักดันให้ตำรวจปราบจลาจลถอยร่นไป 200 ม. เพื่อสามารถเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณจตุรัสเอกราชไว้ได้ทั้งหมด หลังจากที่ตำรวจได้เข้ายึดไว้ก่อนหน้านี้
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตอบโต้ผู้ประท้วงกลับด้วยกระสุนยาง ระเบิดแสง และได้มีมือปืนสไนเปอร์ไม่ทราบฝ่ายได้ซุ่มยิงจากมุมสูงบนตึกที่อยู่ใกล้กับจตุรัสเอกราช โดยทางเจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่าเป็นผลทำให้มีตำรวจยูเครนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 20 ราย ซึ่งการปะทะรอบใหม่ในเช้าวันนี้ (20) ได้ทำให้สัญญาสงบศึกระหว่างประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช และฝ่ายค้านยูเครน ต้องจบสิ้นลงไปในลงไปในไม่กี่ชั่วโมง
และกระทรวงสาธารณสุขยูเครนได้รายงานในวันนี้ (20) ว่า ตำรวจ 88 ราย นักข่าว 6 คน และชาวต่างชาติ 4 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวทั้งหมด 287 คน และมีผู้เสียชีวิต 28 ราย
โดยก่อนหน้านี้นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้เห็นร่างผู้เสียชีวิต 17 ราย ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงในบริเวณล็อบบี้โรงแรม 2 แห่งในยูเครน ซึ่งเป็นสถานที่นักข่าวต่างชาติใช้เป็นฐาน และมีผู้ประท้วงบางคนใช้ล็อบบี้ของโรงเรียนในการพักรักษาบาดแผล และบาทหลวงเพิ่งเดินเข้ามา และร่างผู้ประท้วงอีก 8 ราย นอนเรียรายใกล้กับไปรษณีย์ใกล้กับจัตุรัสเอกราช
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าได้มีการอพยพเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกจากตึกที่ทำการรัฐบาลใกล้กับจตุรัสเอกราชในช่วงเช้าวันนี้ (20) “ในเช้านี้ (20) ได้มีการอพยพเจ้าหน้าที่ทำงานให้กับคณะรัฐมนตรีออกมาจากตึกทำงาน”
ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ 3 ชาติจากอียู ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ได้บินออกนอกประเทศในทันทีโดยที่ไม่รอพบกับยานูโควิชด้วยห่วงความปลอดภัย และทางอียูจะหารือเพื่อร่วมกำหนดนโยบายการคว่ำบาตรในภายหลัง
และก่อนหน้านี้ รถหุ้มเกราะจำนวน 2 ครั้ง ปรากฏให้เห็นบนถนนสายที่มุ่งไปสู่จตุรัสเอกราช ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 3 ชาติอียูมีกำหนดการที่ต้องหารือฉุกเฉินกับยานูโควิช และผู้นำฝ่ายค้าน แต่ในนาทีสุดท้ายรัฐมนตรีชาติอียูได้ยกเลิกการประชุมเนื่องจากห่วงความปลอดภัย และบินตรงไปยังบรัสเซลโดยไม่พบกับผู้ใดทั้งสิ้น แหล่งข่าวรายงาน
ซึ่งการประชุมเต็มคณะของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติสมาชิกอียูและ ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป แคทเธอรีน แอชตัน จะมีขึ้นในวันนี้ (20) ซึ่งคาดกันว่าการประชุมจะอยู่ในประเด็นการการคว่ำบาตร และการห้ามขายอุปกรณ์ที่สามารถใช้สำหรับรัฐบาลยูเครนใช้ในการปราบปราบภายใน
ทางด้านรัสเซียที่ใกล้จะอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มให้กับยูเครนจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์แก่รัฐบาลยานูโควิชภายในสัปดาห์นี้ ต้องการให้รัฐบาลยูเครนสามารถควบคุมสถานการณ์ในกรุงเคียฟไว้ได้ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีตรี อานาตอลเยวิช เมดเวเดฟ กล่าวกับคณะรัฐมนตรีรัสเซียในวันนี้ (20) “เราต้องการทำงานกับเพื่อนในกรุงเคียฟที่มีศักยภาพในการใช้อำนาจตามกฏหมาย โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าประชาชนของเขาจะเห็นเขาเป็นแค่พรมเช็ดเท้า”
ในขณะที่ยานูโควิชก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้วันนี้ (20) เป็นวันไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในการประท้วง
และมีอัปเดตความคืบหน้าอื่นๆดังนี้
*นักกีฬายูเครนที่อยู่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวโซชิเกมส์ได้ตัดสินใจเดินทางกลับมายังยูเครนหลังเกิดเหตุความรุนแรงในวันอังคาร (18) โฆษกโซชิเกมส์เปิดเผย
*กลุ่มผู้ประท้วงสายฮาร์ดไลน์กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ร่วมลงนามในสัญญาสงบศึก และไม่มีสิ่งใดต้องเจรจา
*รถไฟสายวิ่งระหว่างกรุงเคียฟและเมืองลวีฟ ฐานที่มั่นอีกแห่งของผู้ประท้วงในทางตะวันตกของยูเครน ได้หยุดการให้บริการลงชั่วคราว สำนักข่าวอินเตอร์แฟกส์ยูเครน รายงาน ด้านโฆษกรถไฟยูเครนแถลงว่า เหตุหยุดวิ่งเนื่องจากรางชำรุด