เอเอฟพี – ผู้สูงอายุชาวเกาหลีใต้ 82 คน เดินทางข้ามพรมแดนไปยังฝั่งเกาหลีเหนือเพื่อร่วมกิจกรรมวันรวมญาติซึ่งทั้ง 2 ประเทศจัดขึ้นในวันนี้ (20) ซึ่งถือเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกในรอบ 60 ปี ระหว่างญาติมิตรที่พลัดพรากจากกันในช่วงสงครามเกาหลี
งานรวมญาติซึ่งจัดสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 15.00 น. (13.00 น.ตามเวลาในไทย) โดยครอบครัวชาวเกาหลีจาก 2 ประเทศจะได้พบกันภายในหอประชุมใหญ่ของรีสอร์ตบนภูเขาคุมกัง
งานในวันนี้ถือเป็นผลสัมฤทธิ์จากการเจรจาอย่างอดทนระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีเหนือขู่จะยกเลิกแผนจัดงานรวมญาติ เพราะไม่พอใจที่โซลจะเปิดซ้อมรบประจำปีร่วมกับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
คณะผู้สูงวัยชาวเกาหลีใต้และญาติชาวเกาหลีเหนือ 180 คนจะได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันนี้ (20) ส่วนในวันศุกร์ (21) ก็จะเป็นการพบปะอย่างเป็นส่วนตัว
เจ้าหน้าที่ในกรุงโซล เปิดเผยว่า พลเมืองโสมแดงที่ได้รับเชิญมาในงานรวมญาติครั้งนี้มีชาวประมง 2 คนที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปในช่วงทศวรรษ 1970 ด้วย
ขบวนรถบัส 10 คันนำคณะผู้สูงวัยเกาหลีใต้เดินทางออกจากเมืองท่าซอกโจ เมื่อเวลา 8.30 น. โดยมีรถตำรวจสิบกว่าคันนำขบวนไป โดยก่อนหน้านั้นมีหญิงชรา 2 คนที่ล้มป่วยกะทันหัน แต่สุดท้ายก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปด้วยรถพยาบาล
ผู้สูงวัยบางคนเล่าถึงความหวังและความกระวนกระวายใจ หลังทราบว่าการพบญาติที่พวกเขาใฝ่ฝันมานานหลายปีกำลังจะเป็นจริง
“ผมคิดว่าตอนที่ผมได้เจอหน้าเธอ ผมคงแทบไม่อยากเชื่อว่ามันคือความจริง” คิม ดอง-บิน วัย 81 ปี เอ่ยถึงพี่สาวซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเปียงยาง และไม่ได้พบหน้ากันมาหลายสิบปี
“ผมไม่แน่ใจว่าจะจำเธอได้ทันทีหรือเปล่า มันผ่านมานานมากแล้ว” เขากล่าว
ผู้สูงอายุทุกคนต่างนำของขวัญติดไม้ติดมือไปฝากญาติที่เกาหลีเหนือ มีตั้งแต่ยารักษาโรค, ผลไม้สด, รูปถ่ายครอบครัวที่ใส่กรอบอย่างดี เรื่อยไปจนถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“ของขวัญที่ฉันจะเอาไปฝากพี่สาวจะต้องเป็นของดีที่หาไม่ค่อยได้ในเกาหลีเหนือ ฉันหวังว่าเธอจะดีใจ” คิม เซ-ริน วัย 85 ปี กล่าว พร้อมเผยว่าเธอยังพกธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯไปฝากพี่สาวและน้องชายอีกคนหนึ่งด้วย
สงครามเกาหลีในช่วงปี 1950-53 ทำให้ชาวเกาหลีหลายล้านคนต้องพลัดพรากจากญาติพี่น้อง และส่วนใหญ่ก็แก่ชราและตายจากกันไปโดยไม่มีโอกาสส่งข่าวคราวให้ญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ได้รับรู้
เนื่องจากสงครามยุติลงได้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงแต่ยังปราศจากสนธิสัญญาสันติภาพ เกาหลีเหนือและใต้จึงยังถือว่าอยู่ในภาวะสงคราม และพลเมือง 2 ประเทศยังไม่สามารถส่งจดหมายหรือโทรศัพท์ติดต่อกันโดยตรงได้
งานรวมญาติชาวเกาหลีเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่ประธานาธิบดี คิม แด จุง แห่งเกาหลีใต้ได้จัดประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์กับอดีตผู้นำ คิม จอง อิล ในปี 2000 ทว่าจำนวนผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนขอเข้าร่วมงานมักมีมากเกินกว่าจะรองรับได้
ปีที่แล้ว มีผู้สูงอายุชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตไปโดยไม่ทันได้พบหน้าญาติในเกาหลีเหนือถึง 3,800 คน