รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการเวเนซุเอลาประกาศในวันอังคาร (18) เปลี่ยนชื่อแหล่งน้ำมันสำรองที่ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตประธานาธิบดี “อูโก ชาเบซ” ผู้นำสังคมนิยมที่ล่วงลับ
รายงานข่าวจากกรุงการากัสระบุว่า ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร โมโรส ผู้นำวัย 51 ปีของเวเนซุเอลา ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีอูโก ชาเบซ เมื่อ 5 มีนาคมปีที่แล้ว ประกาศระหว่างเดินทางไปเยี่ยมคนงานบริษัทน้ำมันของรัฐ เปลี่ยนชื่อแหล่งน้ำมันดิบ “ฟาฮา เปโตรลิเฟรา เดล โอริโนโก” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นแหล่งน้ำมัน “อูโก ชาเบซ” เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตผู้นำนิยมซ้ายผู้ล่วงลับ
“แหล่งน้ำมันสำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ได้รับการโอบอุ้มจากผู้นำชาเบซของเรา และเพื่อเป็นการระลึกความดีงามของท่านที่ช่วยปกป้องแหล่งทรัพยากรล้ำค่านี้ไว้ให้กับชาวเวเนซุเอลา เราจึงขอให้เรียกขานแหล่งน้ำมันนี้ว่า อูโก ชาเบซ สืบไป” มาดูโรกล่าว
แหล่งน้ำมันดิบดังกล่าวตั้งอยู่ในภาคเหนือของเวเนซุเอลาใกล้กับลุ่มแม่น้ำโอริโนโก โดยแหล่งน้ำมันที่มีเนื้อที่ 55,314 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ มีปริมาณน้ำมันดิบอยู่มากกว่า 513,000 ล้านบาร์เรล และอยู่ภายใต้การดูแลของบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ “เปโตรเลโอส เด เบเนซวยลา” หรือ “เปเดเบซา” ของรัฐบาลเวเนซุเอลาแต่เพียงผู้เดียว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดถูกบรรดานักวิเคราะห์มองว่า เป็นความพยายามของรัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของมาดูโรที่มักเปรียบตัวเองเป็น “บุตรชายของชาเบซ” ในการเบี่ยงเบนความสนใจ จากกระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาลของประชาชนนับหมื่นคน ที่ดำเนินมานานกว่าสัปดาห์และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 4 ราย
ทั้งนี้ รัฐบาลเวเนซุเอลากำลังเผชิญกับกระแสต่อต้านครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี จากความไม่พอใจของประชาชนต่อความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงลิ่ว ปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคขาดตลาด ปัญหาการทุจริต รวมถึงปัญหาอาชญากรรม
และกระแสต่อต้านรัฐบาลยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นหลังจากที่เลโอโปลโด โลเปซ แกนนำฝ่ายค้านวัย 42 ปี ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐฯ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของทางการ และเตรียมถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง รวมถึงความผิดด้านความมั่นคงอีกหลายกรณีที่อาจตามมา