เอเอฟพี – ศาลสูงสุดอินเดียเว้นโทษประหารแก่ 3 ผู้ต้องหาชาวทมิฬที่มีส่วนวางแผนลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ราชีฟ คานธี เมื่อ 23 ปีก่อน โดยอ้างถึงความล่าช้าของกระบวนการพิจารณาลดหย่อนโทษ
คณะผู้พิพากษาซึ่งนำโดย พี.สาธาสิวัม มีคำวินิจฉัยให้เว้นโทษตายแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยเปลี่ยนเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีอินเดียหลายต่อหลายคนได้ใช้เวลาพิจารณาคำร้องขอละเว้นโทษประหารอยู่นานถึง 11 ปี
ทนายฝ่ายจำเลยกล่าวชื่นชมคำตัดสิน “อย่างมีมนุษยธรรม” ของศาล พร้อมระบุว่าลูกความของเขายังมีหวังว่าจะได้รับอิสรภาพในสักวันหนึ่ง
“เราหวังว่านักโทษเหล่านี้จะได้รับการปล่อยตัวในที่สุด ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐทมิฬนาฑูจะมีอำนาจตัดสินใจเรื่องการลดหย่อนโทษ” ยุก เชาธรี ทนายฝ่ายผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี
เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลสูงสุดอินเดียก็ได้อ้างถึง “ความล่าช้าที่เกินกว่าเหตุและอธิบายไม่ได้” ว่าเป็นเหตุอันควรให้ละเว้นโทษตายแก่ผู้ต้องหา 15 ราย ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการตัดสินประหารนักโทษในดินแดนประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้
ผู้ต้องหาชาวทมิฬทั้ง 3 คนที่ได้รับการไว้ชีวิตในวันนี้ (18) เป็นสมาชิกกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (LTTE) ซึ่งเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนในศรีลังกา
มารูกัน, สันธาน และเปราริวาลัน มีความผิดฐานใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายผู้หญิงลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ราชีพ คานธี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 1991 ขณะที่ คานธี รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมใกล้กับเมืองเจนไน
คานธี ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากที่ อินทิรา คานธี มารดาของเขาถูกลอบสังหารเมื่อเดือนตุลาคม ปี 1984 เขาเป็นผู้นำรัฐบาลอยู่ 5 ปีจนกระทั่งแพ้เลือกตั้ง และถือเป็นนายกฯที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แดนภารตะ
ปัจจุบัน ซอนยา คานธี ภรรยาหม้ายของเขา ดำรงตำแหน่งประธานพรรคคองเกรสอินเดีย ส่วนบุตรชาย ราหุล คานธี ก็เป็นตัวเก็งชิงเก้าอี้นายกฯ ในศึกเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤษภาคมปีนี้
เสื้อผ้าขาดวิ่นและรองเท้าที่ ราชีฟ สวมใส่ขณะถูกลอบสังหาร ยังคงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงนิวเดลี