เอเอฟพี - ตำรวจเนปาลวันนี้ (17 ก.พ.) ตรวจพบซากเครื่องบินของสายการบิน “เนปาลแอร์ไลน์” ที่ลำเลียงผู้โดยสารและนักบินรวมทั้งสิ้น 18 ชีวิต ในพื้นที่ภูเขาทางภาคตะวันตกของประเทศ ทว่าไม่พบว่ามีผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าการบินคนหนึ่งเปิดเผย
“เครื่องบินลำนี้ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนเนินเขา และตำรวจพบซากเครื่องบินที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งแต่ไม่มีใครรอดชีวิต” ภีมเลช ลัล การ์นา หัวหน้าฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศ ของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในกรุงกาฐมัณฑุกล่าวกับเอเอฟพี
เครื่องบินซึ่งขนส่งผู้โดยสาร 15 คนลำนี้ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเด็ก 1 คนและลูกเรืออีก 3 ชีวิตได้ขาดการติดต่อกับบรรดาผู้ควบคุมการจราจร ไม่นานนักภายหลังนำเครื่องขึ้นจากท่าอากาศยานในเมืองโปขระ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16) เจ้าหน้าที่ของสายการบินดังกล่าวและตำรวจระบุ
อากาศยานจากสายการบินที่บริหารจัดการโดยรัฐลำนี้กำลังมุ่งตรงไปยังเมืองจัมลา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมัณฑุไปทางทิศตะวันตก 353 กิโลเมตร เมื่อบรรดาผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศไม่สามาถติดต่อนักบินได้
ฝนที่กระหน่ำเทลงมาอย่างหนักวานนี้ (16) กลายเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความพยายามในการค้นหาเครื่องบินลำนี้ โดยมีเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำต้องบินกลับไปเนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้าย
ในที่สุดตำรวจก็ตรวจพบชิ้นส่วนของซากเครื่องบิน ขณะดำเนินภารกิจค้นหาทางอากาศในเขตอาร์กาคันจี ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปทางทิศตะวันตก 226 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่การบินชื่อการ์นาระบุ
ราม ฮารี ชาร์มา โฆษกของสายการบินเจ้านี้เผยว่า มีผู้โดยสารคนหนึ่งเป็นชาวเดนมาร์ก
นอกจากนั้น ผู้ที่โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ที่เหลือเป็นชาวเนปาลทั้งหมด ซึ่งรวมถึง มานับ เซจูวัล นักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสังกัดพรรคเนปาลีคองเกรส
อุบัติเหตุคราวนี้ได้จุดประกายให้เกิดกระแสความวิตกกังวลด้านภาคการบินของประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้อีกครั้ง ซึ่งเคยถูกบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของนานาประเทศวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตหลายระลอก
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) ได้สั่งห้ามไม่ให้สายการบินทั้งหมดของเนปาลบินเข้าไปในประเทศสมาชิกอียู
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนปาลที่ต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก กำลังเผชิญกับปัญหาอุบัติเหตุทางอากาศหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งปกติแล้วมีสาเหตุมาจากนักบินที่ขาดประสบการณ์ การบริหารจัดการที่ไม่ได้คุณภาพ และการขาดการซ่อมบำรุง